ผู้จัดการจัดการพอร์ตการลงทุนจาก Morgan Stanley ระบุว่า พรรคเดโมแครตน่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และนี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยได้รวดเร็วกว่าที่คาด
สมาชิกอาวุโสด้านการบริหารจัดการการลงทุนของ Morgan Stanley กล่าวว่า โดยการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดน่าจะเกิดขึ้นช่วง 2024-2025 หรือ 2023-2024 (โดยมีโอกาสเห็นการขึ้นในกรอบเวลาแรก) โดยต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบายของพวกเขา อาทิ นโยบายภาษี
นอกจากนี้ ภาวะ “Blue Wave” ยังอ้างถึงผลลัพธ์ที่ว่า “นายโจ ไบเดน” จะเอาชนะ “นายโดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯในการแข่งขันศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะที่ชัยชนะของเดโมแครตจะรวมถึงการได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาด้วย
สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีแรงกดดันจากการะบาดของไวรัสโคโรนาในเวลานี้ แต่คาดว่าจะสามารถรีบาวน์ได้ในปี 2021 โดยจะเห็นได้ถึงการเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีดังกล่าว จากการที่พรรคเดโมแครตตั้งใจจะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ดังนั้น ผลจากการใช้นโยบายในปี 2021 จึงน่าจะยังไม่เกิดขึ้น แต่น่จะเริ่มเห็นได้ในปี 2022
ผลกระทบดังกล่าวอาจมีความหลากหลาย และนำมาสู่ การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเป็นครั้งแรก แม้ว่าจะยังไม่มีใครกล่าวถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลานี้ แต่น่าจะเกิดได้ในปี 2024 – 2025 หรืออาจจะเป็นช่วงปี 2023 – 2024
อย่างไรก็ดี เฟดมีการคงดอกเบี้ยใกล้ระดับศูนย์มาตั้งแต่เดือนมี.ค. และบ่งชี้ว่าอาจมีการตรึงดอกเบี้ยไว้จนถึงปี 2023 เพื่อให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังอยู่ในระดับต่ำ ถึงแม้ว่าจะมีความเป็นไปได้มากขึ้นตั้งแต่วันอังคารว่าอาจเกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจได้ก่อนการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. ก็ตาม
ที่มา: CNBC