• จะเกิดเหตุการณ์ “เดจาวู” อีกครั้งหรือไม่?

    6 พฤศจิกายน 2563 | Gold News
  
นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ดูจะมีเหตุการณ์เดจาวูเหมือนการเลือกตั้งในปี 2016 เพียงเล็กน้อยที่จะส่งผลต่อราคาทองในแบบทันทีทันใด

ปี 2016:
นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า หาก นายทรัมป์ ได้รับเลือก “ทองจะสูงขึ้น” จากความไม่แน่นอนในระดับสูง

เพราะเขาถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ “ไม่ได้เป็นนักการเมือง”

สิ่งที่เหมือนกัน
ในการเลือกตั้งตลาดตอบรับในลักษณะ Knee-Jerk จึงเป็นเหตุให้
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปก่อนในชั่วโมงแรก
- ราคาทองคำปรับตัวลงมาหลังจากนั้

ทั้งนี้ ในช่วงต้นของการเลือกตั้งปี 2016 ค่อนข้างเห็นผลคะแนนค่อนข้างชัดเจน และคู่ท้าชิงคือนางคลินตัน ที่หากชนะจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก ที่ช่วงต้นดูจะมีคะแนนนำมา แต่ก็พ่ายแพ้ไปในที่สุด



ผลที่ตามมา ราคาทองคำเกิดแรงเทขายหลังมีการผลเลือกตั้งต่อสาธารณชน และในช่วง 4 ปีต่อมา ระหว่างที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งก็พบว่า “ทองคำปรับขึ้นได้ราว 50%”

ทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องตลอดวาระการบริหารงานของทีมบริหารทรัมป์ จนถึงล่าสุดที่สหรัฐฯเผชิญกับวิกฤตไวรัสโคโรนาที่เริ่มต้นขึ้นในปีนี้ อันเป็นสาเหตุให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯใช้งบสูงถึง 3 ล้านล้านเหรียญภายใต้โครงการ CARES ACT ที่จำเป็นต้องมีการกระตุ้นทางการเงินเพื่อชุบฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

“ชัยชนะของนายทรัมป์ถือเป็นปัจัยที่ไม่แน่นอน” และความไม่แน่นอนภายใต้การบริหารงานของเขาจะเป็นสาเหตุให้ “ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง”

ในความเป็นจริงนั้น ทีมบริหารทรัมป์สามารถทำให้ “ราคาทองคำปรับขึ้นไปได้ประมาณ 50 เหรียญ ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง”

และภายใน 8 ชั่วโมงต่อมา ราคาก็สามารถพลิกกลับมา โดย “ราคาทองคำปรับลง 50 เหรียญ” และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้การนำของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

- - - - - -

ปี 2020:
เมื่อคะแนนของผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯทั้งคู่ดูจะสูสี แต่เมื่อช่วงใกล้ปิดการเลือกตั้ง นายไบเดน ก็ฉายแววที่จะกลายมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 46

สิ่งที่เหมือนกัน คือ ตลาดตอบรับในลักษณะ Knee-Jerk ซึ่งในปี 2016 ก็มีคาดการณ์ว่าพรรคเดโมแครตจะได้รับชัยชนะ และนั่นส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เพราะนายไบเดน มีแนวคิดสนับสนุนค่าใช้จ่ายของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก

ความเชื่อมั่นในตลาดทองปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อมีความแน่ชัดแล้วว่า “พรรครีพับลิกันจะยังครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ” ที่จะมาจำกัดโอกาสเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่และลดโอกาสการเพิ่มยอดขาดดุลครั้งประวัติศาสตร์ในปี 2020

ภาพรวม:
นักลงทุนมีการเข้าซื้อทองมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้ง จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า

เดโมแครตน่าจะสามารถครองเสียงข้างมากได้ทั้งในสภาล่างและสภาสูง และสิ่งที่ตามมาคือการเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

แต่การที่จะเห็น
- นายทรัมป์ ค้านผลเลือกตั้ง
- พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา
ก็ทำให้ “ทองคำดูจะปรับขึ้นได้” เหมือนช่วงที่ทราบผลคะแนนเมื่อปี 2016 นั่นเอง

ที่มา: Kitco

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com