• MTS Economic News_20190702

    2 Jul 2019 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังจากตลาดเริ่มคลายความตื่นเต้นที่มีต่อข่าวการสงบศึกการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุด หลังธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย แค่ไม่ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายในอนาคตเท่าไหร่นัก

· ค่าเงินหยวนอ่อนค่าเล็กน้อย หลังจากที่แข็งค่าในช่วงต้นตลาด จากรายงานข่าวที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องการให้ข้อตกลงการค้าที่จะเกิดขึ้นระหว่างจีน-สหรัฐฯ เอนผลประโยชน์มายังฝั่งสหรัฐฯมากกว่า

ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่า 0.3% แถว 0.6983 ดอลลาร์ หลังจากอ่อนค่าลงมาถึง 0.9% ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. เมื่อวานนี้

· การประชุมธนาคารกลางออสเตรเรียวันนี้ มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.00% ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาด ขณะที่ถ้อยแถลงของธนาคารกลางระบุว่า จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้ง “หากจำเป็น” ซึ่งตลาดตอบรับกับถ้อยคำดังกล่าวว่า มีความแน่นอนลดลงที่จะทำการปรับลดดอกเบี้ยอีก

ด้านดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถว 96.790 จุด หลังจากเมื่อวานนี้ปรับขึ้นมาด้วยอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. จากข่าวการสงบศึกระหว่างสหรัฐฯ-จีน

· ตลาดจะจับตาไปยังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนวันศุกร์ โดยคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่ม 160,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. เทียบกับเดือน พ.ค. ที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 75,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขการจ้างงานถูกคาดการณ์ว่าจะออกมาแข็งแกร่ง แต่ค่าเงินดอลลาร์น่าจะไม่สามารถแข็งค่าไปได้มากกว่านี้ เนื่องจากยังมีกระแสคาดการณ์เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

· ค่าเงินยูโรอ่อนค่าทำระดับต่ำสุดในรอบ 8 วันที่ 1.1275 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาทรงตัวบริเวณเดิม แถว 1.1289 ดอลลาร์/ยูโร โดยค่าเงินยูโรเมื่อวานนี้อ่อนค่าลง 0.7% ซึ่งเป็นอัตราอ่อนค่ารายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่ออกมาน่าผิดหวัง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับร่วงลง และหนุนกระแสคาดการณ์ว่าทางอีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

· รายงานจาก Reuters ระบุว่า เพียงไม่กี่วันหลังจากที่สหรัฐฯตกลงสงบศึกการค้าร่วมกับจีนเป็นการชั่วคราวได้ ล่าสุดสหรัฐฯกลับมาข่มขู่ขึ้นภาษีอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นสินค้านำเข้าจากยุโรป

โดยสำนักตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯเปิดเผยรายชื่อสินค้านำเข้าจากยุโรปที่ครอบคลุมไปยังกลุ่ม ผลิตภันฑ์จากมะกอก อิตาเลียนชีส และสก็อตวิสกี้ เพิ่มเติมเป็นมูลค่ารวม 4 พันล้านเหรียญ ซึ่งจะเพิ่มเติมไปยังกลุ่มสินค้าที่เคยข่มขู่ขึ้นภาษีเป็นมูลค่า 2.1 หมื่นล้านเหรียญ เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา

· หัวหน้าทีมแคมเปญหาเสียงของนายบอริส จอห์นสัน ผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า นายบอริสจะพยายามผลักดันให้เกิดข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป โดยยืนยันว่าจะไม่ยอมให้อังกฤษถูกขึ้นภาษีหลังจากที่ถอนตัวออกไปในวันที่ 31 ต.ค. อย่างไรก็ตาม หากเจรจาไม่สำเร็จ อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพอย่างไม่มีข้อตกลง และจะไม่กลับไปร่วมโต๊ะเจรจาอีกอย่างเด็ดขาด

· รัฐบาลอิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ ที่ระบุว่าอิหร่านได้สะสมแร่ยูเรเนียมสูงกว่าเพดานที่ข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กำหนดไว้

· การประชุมของกลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่นำโดยรัสเซียที่จัดขึ้นวันนี้ มีแนวโน้มสูงที่จะประกาศขยายระยะเวลาของมาตรการปรับลดกำลังการผลิต เพื่อช่วยกระตุ้นราคาน้ำมัน ท่ามกลางภาวะที่เศรษฐกิจโลกอ่อนแอลง และการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น

· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากกลุ่มโอเปกจะขยายระยะเวลาการผลิตออกไปจนถึงเดือนมี.ค. ปี 2020เพื่อสนับสนุนการอ่อนตัวทางเศรษฐกิจ และการเพิ่มกำลังการผลิตของสหรัฐฯ แม้ว่าราคาจะถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อาจจลดลง ท่ามกลางภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

โดยราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ที่ระดับ 65.40 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ที่ระดับ 59.27 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสประจำ London Capital Group ระบุว่า เหล่าเทรดเดอร์จะหันมาให้ความสนใจกับข้อมูลทางเศรษฐกิจเนื่องจากกิจกรรมภาคการผลิตทั่วโลกที่อ่อนตัวลงและความต้องการที่ลดลงอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและเรียกร้องให้มีการปรับลดราคาน้ำมันลงหลังจากการฟื้นตัวในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา


MTS Gold Co., Ltd.
40,42,44, Sapsin Road, Wang Burapha Phirom Sub-district, Pranakorn District, Bangkok, 10200
Tel. 0 2770 7777 Fax. 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com