คืนส่งท้ายปี 2015 ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -1.02% ตลาดหุ้นยุโรปปิด -0.5% จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง หลังจากวันพุธที่ผ่านมา (30 ธ.ค.) น้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 3.5% ขณะที่เช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด -1.13% ตามทิศทางการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรป
นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.90-36.20 บาท/ดอลลาร์ โดยอาจต้องจับตาปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ โดยเฉพาะข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์หน้า ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนี PMI ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนธ.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้าง ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. รวมทั้งรายงานการประชุมเฟดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย วิเคราะห์ว่า สัปดาห์หน้าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,265-1,320 จุด โดยต้องจับตารายงานข้อมูล PMI ของจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจของสหรัฐฯอื่นๆที่น่าสนใจ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ยอดสั่งซื้อของโรงงาน รวมถึงบันทึกการประชุมเฟด
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2559 คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นเป็นร้อยละ 3 จากปี 2558 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.8 โดยมีการลงทุนภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งหากภาครัฐลงทุนตามแผนที่วางไว้ เอกชนก็จะเริ่มลงทุนตาม ซึ่งคาดหวังว่าการลงทุนภาคเอกชนในปี 2559 จะกลับมาเป็นบวก หลังจากติดลบต่อเนื่องมา 3 ปี ซึ่งประเมินว่าเม็ดเงินลงทุนของภาครัฐจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ปลายปี 2559 และเต็มที่ในปี 2560-2561
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลกำหนดให้ปี 2559 ในวันที่ 4 ม.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมประชุมร่วมกับผู้บริหารการกระทรวงการคลัง หารือเกี่ยวกับแนวทางปรับโครงสร้างภาษี เป็นปีแห่งการลงทุน