ดัชนีดาวโจนส์ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายวันแรกของปีร่วงลงไปกว่า 400 จุด และหลุด 17,000 จุด ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนโดยดัชนีดาวโจนส์ปิด -1.58% หรือปิดร่วง 276.09 จุด ที่ระดับ 17,148.94 จุด ตลาดหุ้นยุโรปปิด -2.5% และเช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด -0.28% จากความกังวลต่อการร่วงลงของตลาดหุ้นจีน ที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงตาม โดยตลาดมีความกังวลว่าภาคการผลิตที่ชะลอตัวของจีนที่อาจฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันนักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย จึงทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเลือกถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยแทน
เมื่อวานนี้ การซื้อขายในตลาดหุ้นจีนมีการปรับตัวลงกว่า 7% (เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต -6.85%, เสิ่นเจิ้น -8.16%) จึงส่งผลให้ตลาดดำเนินการ Circuit Breaker ในวันทำการแรกของปี 2559 หลังข้อมูลภาคการผลิตของจีนยังคงบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา จากภาคการจ้างานที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ค่าเงินหยวนอ่อนตัวลง 0.96% ที่ระดับ 6.5032 หยวน/ดอลลาร์
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.00-36.20 บาท/ดอลลาร์ โดยเมื่อวานนี้ยังมีแรงซื้อขายไม่ชัดเจนแม้ว่าจะอ่อนค่าขึ้นทดสอบ 36.20 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าเงินบาทอาจรอ Break ด้านใดด้านหนึ่งของกรอบดังกล่าว
กระทรวงพาณิชย์ไทย แถลงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนธันวาคมอยู่ที่ระดับ 105.74 โดยหดตัว -0.39% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และหดตัว -0.85%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ขณะที่ภาพรวมตลอดปี 2558 พบว่า CPI หดตัว -0.9%จากที่คาดไว้ที่ระดับ -1 ถึง -0.2%
ขณะที่ดัชนี Core CPI อยู่ที่ระดับ 106.11 ในเดือนธันวาคม โดยหดตัว -0.02% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่หดตัว -0.68%เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้ภาพรวม Core CPI ทั้งปีเพิ่มขึ้น 1.05%