ดัชนีดาวโจนส์ปิด +1.41% หรือปรับขึ้น 227.64 จุด ที่ระดับ 16,379.05 จุด โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 รวมทั้งขานรับรายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน รวมถึง JP Morgan Chase & Co. และการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบติดต่อกัน 2 วันทำการ ซึ่งการฟื้นตัวของดัชนีดาวโจนส์ได้หนุนให้ ดัชนีนิกเกอิเช้านี้เปิดตลาด +1.63% หรือเพิ่มขึ้น 281.51 จุด ที่ระดับ 17,522.46 จุด
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาด +1.97% ที่ระดับ 3,007.65 จุด โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลงระหว่างวัน จากความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังยอดส่งออกปี 2015 อ่อนแรงลง
ตลาดหุ้นยุโรปปิด -1.5% ที่ระดับ 339.42 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และรายงานการประชุมเดือนธันวาคมของอีซีบี พบว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันจึงทำให้อีซีบีไม่สามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากเท่าที่ตลาดคาดการณ์
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.20-36.40 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะส่งผลต่อค่าเงินบาท ขณะที่วันจันทร์ตลาดการเงินและภาคธนาคารสหรัฐฯปิดทำการในวัน Martin Luther King Day
สคร. เตรียมเสนอ ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ ให้แก่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) หรือซุปเปอร์บอร์ดได้พิจารณาในวันที่ 18 ม.ค.นี้ ซึ่งกฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับรัฐวิสาหกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการนำหลักบรรษัทภิบาลที่ดีตามมาตรฐานสากลมาปรับใช้กับรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง รวมทั้งการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพของรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัท