ตลาดหุ้นดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักโดยปิด -2.39% หรือกว่า 390.97 จุด ที่ระดับ 15,988.08 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิด -2.8% ที่ระดับ 329.84 จุด และส่งผลให้เช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด -2.77% หรือกว่า 475.49 จุด ที่ระดับ 16,671.62 จุด โดยตลาดหุ้นได้รับแรงกดดันหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่าระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล จึงทำให้นักลงทุนกังวลว่า วิกฤตราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมพลังงาน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯและจีน
ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดในปี 2011 เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ท่ามกลางการร่วงลงอย่างหนักของราคาน้ำมันดิบ รวมทั้งความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่กลับสู่ภาวะขาลง
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.20-36.50 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องจับตาสถานการณ์ตลาดการเงินและข้อมูลเศรษฐกิจจีน อาทิ จีดีพีจีนไตรมาส 4/2015 รวมทั้งข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนธันวาคมของจีน ขณะที่ปัจจัยทางฝั่งสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีที่อยู่อาศัย ภาคการผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค และยอดขายบ้าน ขณะที่ประเด็นสำคัญของไทย จะเป็นการเดินทางมาตรวจสอบและประเมินผลการแก้ปัญหา IUU Fishing ของยุโรป