ตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จึงส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง โดยในวันนี้ดัชนีนิกเกอิ ร่วงลงกว่า 3.71% หรือกว่า632.18 จุด ที่ระดับ 16,416.19 จุด แตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน และเป็นระดับต่ำสุดในปีนี้
นักวิเคราะห์ตลาดการเงินในประเทศ ระบุว่า ดัชนีนิกเกอิในระยะยาวยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบในระดับต่ำ จึงทำให้เราเห็นแรงเทขายออกมาตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ เนื่องจากภาวะอุปทานน้ำมันที่ล้นตลาดได้ส่งผลกดดันราคาน้ำมันดิบ ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ตลาดหุ้นก็อาจได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงวันนี้กว่า 1% โดยความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลกยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากกังวลต่อภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังไอเอ็มเอฟประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัว กอปรกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลง
ตลาดหุ้นจีนยังคงมีความผันผวนและปรับตัวกว่า 1% ในตลาดการซื้อขายวันนี้ แม้ว่าจะมีกระแสคาดการณ์ว่าทางการจีนอาจดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ดัชนีก็ยังคงได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันที่ส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วทุกมุมโลกและส่งผลให้วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 4 ปี
โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลง 31.05 จุด หรือ -1.03% ปิดที่ 2,976.69 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 749.51 จุด หรือ 3.82% ปิดวันนี้ที่ 18,886.30 จุด
เทรดเดอร์จาก Asenna Wealth Solutions กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดการเงินดูเหมือนว่าจะเป็นลบ จากราคาในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ขณะนี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการมอบนโยบายแก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(ทูตพาณิชย์) โดยยืนยันที่จะกำหนดเป้าหมายการส่งออกของไทยในปีนี้ไว้ที่ 5% แม้จะยอมรับว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้อาจจะยังเติบโตได้ไม่ดีนัก ทำให้คู่ค้ากำลังซื้ออ่อนลง โดยล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงเหลือโต 3.4%
รมว.คมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ไทย-จีนว่า ล่าสุดทางการจีน ยอมปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้รถไฟไทย-จีน ลงเหลือ 2% ตามที่ไทยเสนอไปแล้ว จากเดิมที่ 2.5% และจากนี้กระทรวงการคลังจะหารือกับทางการจีน เพื่อกำหนดรูปแบบ แหล่งเงิน สัดส่วนการลงทุนการก่อสร้างครั้งนี้ เบื้องต้นไทยต้องการเปิดให้จีน เข้ามาถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนเพิ่มมากขึ้น เช่น จีน 60% ไทย 40% หรืออาจเพิ่มเป็นจีน 70% และไทย 30% ส่วนจะใช้รูปแบบไหน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงการคลัง