ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในการซื้อขายวันนี้ แต่ยังคงทรงตัวแม้ว่าจะลงไปทำจุดต่ำสุดในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์นี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมของธนาคารกลางต่างๆในสัปดาห์นี้
โดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนแถวระดับ 118.75 เยน/ดอลลาร์ แต่ยังคงอยู่ไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 118.88 เยน/ดอลลาร์ในคืนวันศุกร์ หลังจากที่ในสัปดาห์ก่อนหน้าแข็งค่าลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี บริเวณ 115.97 เยน/ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ 0.25-0.50% ในการประชุมที่จะสิ้นสุดคืนวันที่ 28 มกราคมนี้
ขณะที่เหล่าเทรเดอร์ยังคงจับตาถึงความเป็นไปได้ของอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวและความผันผวนของตลาดการเงินที่เกิด ขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ อาจสร้างความวิตกกังวลให้แก่เฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และอาจเพิ่มความพินิจพิเคราะห์ให้แก่เฟดเพิ่มขึ้นถึงการคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์จาก Nomura เชื่อว่า เฟดจะรอจนกว่าจะถึงเดือนมิถุนายน ก่อนจะตัดสินใจทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในครั้งต่อไป
ทั้งนี้ เฟดน่าจะยังไม่ทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆในการประชุมเดือนมกราคม และไม่มีแนวโน้มจะกล่าวถึงแผลการดำเนินนโยบายใดๆในเดือนมีนาคมนี้ โดยเชื่อว่าเจ้าหน้าที่เฟดตระหนักถึงแนวโน้มความเสี่ยง จากเงื่อนไขการคุมเข้มนโยบายทางการเงิน ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบในระดับต่ำ และการขยายตัวของนานาประเทศ
นักวิเคราะห์จาก FXStreet คาดว่า เฟดน่าจะยังไม่ได้รับข้อมูลเศรษฐกิจที่เพียงพอในช่วงต้นปีนี้ ท่ามกลางข้อมูลล่าสุดที่ยังส่งสัญญาณชะลอตัว และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่วิกฤตการณ์ในจีนอาจดีขึ้นและทำให้การถือครองสถานะ Long ในค่าเงินดอลลาร์ลดน้อยลง
ขณะที่บีโอเจมีความเป็นไปได้ที่จะขยายมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน QQE ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินเลนและการทรุดตัวของราคาพลังงาน ซึ่งทั้งสองปัจจัยข้างต้นได้สร้างความกังวลต่อเจ้าหน้าที่บีโอเจจึงอาจทำให้มีการดำเนิน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจข้างต้นเพิ่มขึ้น
รายงานจากรอยเตอร์ส คาดการณ์ว่า การประชุมบีโอเจระหว่าง 28-29 มกราคมนี้ มีแนวโน้มว่าบีโอเจจะทำการปรับลดคาการณ์เงินเฟ้อ (Core CPI) ในปีนี้ลงต่ำกว่าระดับ 1% ขณะเดียวกันก็คาดว่าบีโอเจน่าจะยังคงนโยบายการเงินต่อไปก่อนในการประชุมเดือนนี้ และอาจจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนเมษายน
เช้านี้ราคาน้ำมันดิบฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้นต่อ โดยยังคงได้รับแรงหนุนหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจากแรงการทำ Short-Coveringและปริมาณความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดทางซีกโลกเหนือ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปถือเป็นปัจจัยหลัก จากการที่นักลงทุนลดการถือครองสถานะ Short Position ในน้ำมันดิบ WTI หลังจากที่ถือครองสถานะดังกล่าวมากที่สุดในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งราคาน้ำมันดิบมีโอกาสจะปรับตัวลดลงต่อ จากผลกระทบเชิงลบของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ หลังจากรายงานล่าสุดของบริษัทBaker Hughes ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯจะเพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์นี้