ตลาดหุ้นดาวโจนส์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 16,000 จุดอีกครั้ง โดยปิด -1.29% หรือร่วงกว่า 208.29 จุด ที่ระดับ 15,885.22 จุด ตลาดหุ้นยุโรปปิด -0.6% ที่ระดับ 336.27 จุด และเช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด -2.19% หรือร่วงกว่า 375.01 จุด ที่ระดับ 16,735.90 จุด เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลต่อการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบเกือบ 6% จากความกังวลว่าอุปทานน้ำมันจะสูงเกินไปหากอิหร่านเริ่มทำการส่งออกน้ำมัน จึงกดดันให้หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตาม ขณะเดียวกันกลุ่มนักลงทุนก็มีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมเฟดในช่วงเวลาตี 1 คืนพรุ่งนี้
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทไทยในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.90-36.00 บาท/ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันทางเทคนิค ขณะที่บริเวณ 35.90 – 35.95 บาท/ดอลลาร์ เป็นบริเวณที่ยังมีคนรอซื้อ ประกอบกับตลาดมี Flow จึงทำให้เมื่อวานนี้ลงไปทำ Low แค่ระดับ 35.93 บาท/ดอลลาร์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จุดสนใจของตลาดการเงินของไทยในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้านั้นตลาดให้น้ำหนักความสนใจไปที่การพัฒนาการเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากประเทศจีนเป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญของไทย และเป็นประเทศที่มีบทบาทอย่างมากในเอเชีย โดยหากพัฒนาการเศรษฐกิจจีนชะลอตัวเหนือการควบคุม ก็อาจจะกดดันให้ทางการจีนต้องดำเนินมาตรการดูแลเศรษฐกิจที่เข้มงวดขึ้น อันจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในภูมิภาค รวมถึงไทยให้เผชิญกับความผันผวนดังที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ในทางกลับกัน หากทางการจีนสามารถควบคุมการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้ ก็น่าจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาครวมทั้ง เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้