ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันนี้ โดยปรับตัวลดลง 2.3 เหรียญ สู่ระดับ 1,118 เหรียญ ในตลาด COMEX โดยในวันนี้ทองคำยังคงสามารถทรงตัวแถวระดับสูงสุดในรอบ 12 สัปดาห์ได้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่จับตาการประชุมเฟดวาระแรกของปีนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม ขณะที่กระแสคาดการณ์เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. นั้นลดน้อยลงไป อาจสร้างแรงหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้
ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าความน่าจะเป็นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. ลดลงสู่ระดับ 25% จากเดิมที่อยู่ ณ ระดับ 51% ในช่วงต้นปี
จีนนำเข้าทองคำจากฮ่องกง ในเดือน ธ.ค. จำนวน 111.3 ตัน เพิ่มขึ้นจากระดับ 66.8 ตันในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากตลาดหุ้นที่ผันผวนและปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก กอปรกับการคาดการณ์ว่าค่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลง ส่งผลให้ความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังเข้าใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงยิ่งส่งผลให้อุปสงค์ทองคำของจีนเพิ่มสูงขึ้น
หัวหน้านักวิเคราะห์จาก CMC Market ระบุว่า จากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดเอเชีย ซึ่งน่าจะเป็นแรงผลักดันสำคัญของตลาดทองคำในขณะนี้
นักวิเคราะห์จาก OCBC Bank ระบุว่า เงื่อนไขทางเศรษฐกิจอาจไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเร็วๆนี้ ถึงแม้ว่าจะสร้างความเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็ตาม ขณะที่กลุ่มนักลงทุนยังคงหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ เสี่ยง เนื่องจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก จึงไม่น่าแปลกใจหาก ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 1,150 เหรียญ และระดับ1,200 เหรียญ ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
นักวิเคราะห์จาก Argonaut Securities กล่าวว่า จีนมีการเข้าซื้อทองคำในจังหวะที่ราคาถูกลง และการร่วงลงของตลาดหุ้นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความต้องการทองคำปรับตัวสูงขึ้น และคาดว่า ปริมาณการนำเข้าทองคำของจีนจะยังแข็งแกร่ง ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีนในช่วงต้นเดือน ก.พ. นี้