ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าถือครองสินทรัพย์ Safe-Heaven รวมถึงทองคำ
Barclays Bank ประเมินว่า ธนาคารกลางจีนจะมีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 200 เมตริกตันในปีนี้ เพื่อกระจายความเสี่ยงในทุนสำรองสินทรัพย์ระหว่างประเทศ โดยเชื่อว่า จีนจะทำการสำรองทองคำเพิ่มขึ้นในปีนี้เฉลี่ยที่ระดับ 17.9 ตัน หรือ 215 ตันในปีนี้
นักวิเคราะห์ UBS Wealth Management กล่าวว่า จีนอาจทำการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตของตนเองเพิ่มขึ้น โดยการเข้าซื้อทองคำนั้นจะหนุนให้ทองคำสามารถลดความเสี่ยงและความผันผวนที่เกิดขึ้นของตลาดการเงิน
ทั้งนี้ จีนมีทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นจำนวนมากกว่า 3 ล้านล้านเหรียญ และมีการสำรองทองคำเพิ่มขึ้น 1% ใกล้ระดับ 1,000 ตัน
นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อวานนี้บริเวณ 1,127 เหรียญ ซึ่งราคาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการแล้ว แต่หากทองคำหลุดจุดต่ำสุดเดิมเมื่อวานนี้บริเวณ 1,115 เหรียญ ก็มีโอกาสจะกลับมาเป็นทิศทางขาลงอีกครั้ง
ทั้งนี้ ภาพในกราฟราย 4 ชั่วโมง หากราคา Breakout ด้านใดด้านหนึ่งก็มีโอกาสจะไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็วเร็วรุนแรง โดยมีกรอบระหว่าง 1,115.85 – 1,128.17 เหรียญ ซึ่งหากทองคำ Breakout ลงต่ำกว่า 1,115.85 เหรียญ ก็มีโอกาสลงมาทดสอบแนวรับ 1,104 – 1,102 เหรียญ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ทองคำยังคงมีโอกาสจะปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,130เหรียญ ซึ่งเป็นระดับแนวต้านสำคัญขณะที่ ภาพระดับวันของราคาทองคำหลังจากที่ยืนเหนือเส้นสีขาวได้ 3 สัปดาห์ ยังคงแสดงให้เห็นถึงภาวะกลับ ตัวของทองคำ แต่หากทองคำหลุด 1,115 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ยราย5 วัน และเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci 23.6% ซึ่งหากหลุดลงมาจะทดสอบ 1,105 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเส้น Horizontal 100 วัน และเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci 38.2%
แต่หากทองคำยังยืนเหนือ 1,115 เหรียญได้ ก็มีโอกาสจะกลับขึ้นไประดับ 1,124 เหรียญ และอาจทดสอบจุดสูงสุดเดิม 1,128 เหรียญ อย่างไรก็ดี ยังคงมีความผันผวนของข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจดำเนินนโยบายของเฟด จึงช่วยหนุนปริมาณความต้องการทองคำให้เพิ่มสูงขึ้น
Thai
Eng