ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,069.64 จุด พุ่งขึ้น 125.18 จุด หรือ +0.79% ปิดสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงเฟซบุ๊ก แคทเทอร์พิลลาร์ และอาลีบาบา นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.6% ปิดที่ 334.89จุด หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจยูโรโซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจในยูโรโซนที่ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบในรอบเกือบ5 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชน ซึ่งรวมถึงบริษัท H&M
ผลสำรวจในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ม.ค.ของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII)ระบุว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อตลาดหุ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
ผลสำรวจระบุว่า นักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นมีจำนวนเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 29.75% หลังแตะ 21.52%ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนที่มีความรู้สึกไม่เชื่อมั่น มีจำนวนลดลง สู่ระดับ 39.96%จาก 48.71% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนที่ระบุว่ามีความรู้สึกเป็นกลางต่อตลาดหุ้น โดยไม่ได้รู้สึกเชื่อมั่นหรือวิตกต่อตลาด มีจำนวนเพิ่มขึ้นสู่ 30.28% จาก 29.77%
ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวานนี้อยู่ที่ระดับ 35.84/86 บาท/ดอลลาร์ แกว่งในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระทบมากนัก โดยในวันนี้ นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.80-35.90 บาท/ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย วิเคราะห์ว่า S50H16 มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อหลังทะลุระดับ 800 จุด โดยแนะนำให้เปิดสถานะ Long ให้แนวต้านแรกที่ 820 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 840จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 790 จุด และ 760 จุด ซึ่งถือเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน OPEC และ นอก OPEC รวมถึงรัสเซียมีแนวโน้มที่จะจับมือกันลดกำลังการผลิตน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันโลกวันนี้ปรับขึ้นแรง และส่งให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้นมาได้มาก รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น สะท้อนว่าเริ่มมีเงินไหลกลับเข้าตลาดบ้างแล้ว จากเดิมที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกมา
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดเศรษฐกิจไทยในปี 2559 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะขยายตัวในอัตราเร่งขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ อาทิ โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐ ที่รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจำนวน 79,556 กองทุน ภายใต้วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 59 สามารถขยายตัว 3.7% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.2-4.2%