· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง จากความกังวลที่ว่าเฟดจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้หรือไม่ ประกอบกับกระแสคาดการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดว่าอีซีบีจะดำเนินการคุมเข้มทางการเงิน
· โดยค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นไปแถวระดับ 1.1909 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2015 เพราะได้รับอานิสงส์ที่ว่าอีซีบี่นาจะดำเนินการเริ่มถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯและการดำเนินนโยบายของเฟดเป็นปัจจัยหลักที่เข้ากดดันค่าเงินดอลลาร์ โดยล่าสุด เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group แสดงให้เห็นว่า โอกาสทีเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. มีเพียง 46%
· ดัชนีดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน บริเวณ 92.548 จุด ก่อนจะขยับขึ้นเล็กน้อยมาทรงตัวบริเวณ 92.833 จุด ทางด้านค่าเงินเยนทรงตัวที่ระดับ 110.59 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่วันอังคารทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์บริเวณ 109.91 จุด
· ADP เผยผลสำรวจการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของภาคเอกชนยังคงอยู่ในทิศทางการจ้างงานที่แข็งแกร่งแม้จะออกมาแย่กว่าคาดการณ์ที่ระดับ 178,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่ในเดือนก่อนหน้าปรับทบทวนการจ้างงานให้สูงขึ้นสู่ระดับ 191,000 ตำแหน่ง
· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำการลงนามกฎหมายคว่ำบาตรฉบับใหม่แก่รัสเซียแล้ว ขณะที่รัสเซียกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดสงครามการค้า และเป็นการยุติความคาดหวังที่ว่าจะเกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างทีมบริหารของนายทรัมป์
· รายงานจากทำเนียบขาวเผย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประสบความสำเร็จในการลดจำนวนผู้อพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมาย โดยเฉพาะจากเม็กซิโก ซึ่งต่อไปนายทรัมป์จะมุ่งเน้นไปที่การลดจำนวนผู้อพยพแบบถูกกฏหมายลง ด้วยการเพิ่มมาตรการการคัดกรองคนเข้าประเทศ
· รายงานจากกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯระบุว่า การยกเลิกเที่ยวบินสู่เกาหลีเหนือ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ พร้อมเตือนให้ชาวสหรัฐฯที่ยังอยู่ในเกาหลีเหนือเร่งเดินทางออกโดยด่วน
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากภาวะอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ และปริมาณการกลั่นน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยบดบังปัจจัยลบจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯไม่ได้ปรับตัวลดลงไปมากกว่าที่คาดการณ์ โดยล่าสุดปรับลดลงมาที่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปาห์ที่ผ่านมา
- น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 58 เซนต์ หรือคิดเป็น 1.1% ที่ระดับ 52.36 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 51.18 เหรียญ/บาร์เรล
- น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 0.9% ที่ระดับ 49.59 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดในวันก่อนที่ระดับ 48.55 เหรียญ/บาร์เรล
EIA เผย ปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ช่วยหนุนภาวะอุปสงค์ในตลาด โดยปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มสูงขึ้น 123,000 บาร์เรล/วัน