· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร หลังจากที่ข้อมูลภาคบริการของสหรัฐฯออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนก็ปรับอ่อนค่าลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังมีรายงานว่าคณะลูกขุนสหรัฐฯกำลังจะทำการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีที่ผ่านมา
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแถวระดับ 1.1892 ดอลลาร์/ยูโร แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมาบริเวณ 1.1909 ดอลลาร์/ยูโร
ด้านค่าเงินเยนแข็งค่าต่อในรอบ 7 สัปดาห์บริเวณ 109.87 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถวระดับ 92.783 จุด
· สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า คณะลูกขุนของทางสหรัฐฯได้มีการออกหมายเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว ซึ่งรวมไปถึงบุตรคนโตและลูกเขยของนายทรัมป์ และทนายรัสเซีย ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ากระบวนการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯกำลังมีการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่ว่า รัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2016
และจะเห็นได้ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมานายโรเบิร์ต มูลเลอร์ คณะกรรมการสอบสวนพิเศษ ร่วมกับทีมสืบสวนของสหรัฐฯ ได้ร่วมมือกันตรวจสอบว่ารัสเซียมีการแทรกแซงผลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหรือไม่ แม้ว่าทางรัสเซียจะออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆในการเลือกตั้งของนายทรัมป์ พร้อมกล่าวตำหนิทีมสอบสวนที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง
· เมื่อคืนนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เผยถึงความต้องการที่จะเข้าตรวจสอบกระบวนการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เขากล่าวหาว่าไม่มีความยุติธรรม แต่คณะบริหารของเขายังคงมีความกังวลว่า หากดำเนินการตรวจสอบจริงอาจเป็นการท้าทายให้เกิดสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศได้
· ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อยที่ระดับ 240,000 ราย ซึ่งถือเป็นระดับต่ำกว่า 300,000 รายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 126 จึงยังบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความตึงตัวและอาจส่งผลให้เฟดยังสามารถดำเนินการตามแผนที่จะประกาศในเดือนก.ย. ได้เกี่ยวกับการเริ่มต้นปรับลดยอดงบดุลในพอร์ต
· ISM เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการออกมาแย่ลงกว่าที่คาดสู่ระดับ 53.9 จุดและแย่ลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 57.4 จุด จึงทำให้เกิดความกังขาเพิ่มขึ้นในตลาดว่าเฟดจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่
· ราคาน้ำมันดิบปิดอ่อนตัวลงวานนี้ โดยนักลงทุนระมัดระวังการเข้าซื้อหลังจากที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มโอเปก ขณะที่ปริมาณอุปสงค์แก๊สโซลีนในสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้น
น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 35 เซนต์ ที่ระดับ 52.01 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 56 เซนต์ ที่ระดับ 49.03 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ระหว่างการซื้อขายขึ้นไปทำสูงสุดบริเวณ 49.96 เหรียญ/บาร์เรล
· รายงานการวิจัยน้ำมันจาก Thomson Reuters ระบุว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา จากสมาชิกกลุ่มประเทศแอฟริกัน
· สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ มีแนวโน้มสูงที่จะปฏิเสธข้อเสนอจากบรรดาบริษัทผลิตน้ำมันที่จะให้มีการโยกย้ายความรับผิดชอบด้านการผสมน้ำมันสู่ผู้ผลิตรายย่อย
ทั้งนี้ การปฎิเสธข้อเสนอดังกล่าวน่าจะส่งผลให้บริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่าง Valero Energy Corp หรือ CVR Energy ต้องสูญเสียงบประมาณไปกับกระบวนการผสมน้ำมันเป็นจำนวนเงินหลายร้อยล้านเหรียญในทุกๆปี