• ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่บริเวณ 93.330 เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก หลังจากที่ดัชนีปรับแข็งค่าขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ที่ระดับ 92.548 โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาดในคืนวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณว่าค่าเงินดอลลาร์จะสามารถรักษาทิศทางขาขึ้นในระยะยาวหรือไม่
ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยน ทรงตัวอยู่บริเวณ 110.695 เยน/ดอลลาร์
ทางด้านค่าเงินยูโร ปรับแข็งค่าขึ้นมา 0.2% ที่บริเวณ 1.1798 ยูโร/ดอลลาร์ หลังจากที่ปรับอ่อนค่าลงมา 0.8% เมื่อคืนวันศุกร์ จึงยังคงทิ้งระยะห่างจากจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ระดับ 1.1910 ยูโร/ดอลลาร์
นักกลยุทธ์ FX อาวุโสจาก IG Securities คาดการณ์ว่าสัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่สำคัญของค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่ปรับขึ้นได้อย่างจำกัด แม้ตัวเลขการจ้างงานประกาศออกมาแข็งแกร่งก็ตาม จึงเป็นสัญญาณว่าการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯยังคงชะลอตัวอยู่
• สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า โครงการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยให้สัญญาว่าจะยื่นเบิกเงินลงทุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านล้านเหรียญ ปัจจุบันยังคงไร้ความคืบหน้า แม้นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเป็นเวลา 7 เดือนแล้วก็ตาม จึงเป็นสาเหตุให้บรรดารัฐต่างๆในสหรัฐฯมีการออกพันธบัตรเกี่ยวกับการพัฒนาการระบบคมนาคม หรือระบบสาธารณูปโภคน้อยลง
• สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ จะเดินทางมายังประเทศภายในวันพรุ่งนี้ โดยแหล่งข่าวระบุว่า นายเร็กส์มีกำหนดการจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไทยเพื่อเจรจาเกี่ยวกับการนำเข้าและดุลการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ
• ภาพรวมการใช้จ่ายของบริโภคอังกฤษประจำเดือนกรกฏาคม ปรับร่วงลงอีก 0.8% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งเป็นการปรับร่วงติดต่อกันมากที่สุดในรอบ 4 ปี จึงแสดงให้เห็นว่าผลกระทบจากการโหวต Brexit เมื่อปีที่ผ่านมายังคงมีผลต่อการตัดใจสินของผู้บริโภคอังกฤษ
• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีประจำเดือนมิ.ย. อ่อนตัวลงเกินคาดเป็นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งล่าสุดแตะระดับ 1.1% หลังจากที่ขยายตัวได้ 1.2% ในไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าภาพรวมไตรมาสที่ 2 จะยังอยู่ในทิศทางขยายตัว
รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์เยอรมนี กล่าวว่า ภาคการก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรมของเยอรมนียังคงขยายตัวได้ 1.8% ระหว่างเดือนเม.ย. - มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงกว่าไตรมาสแรกของปีนี้ ควบคู่กับดัชนีชี้วัดภาคธุรกิจ ที่ยังบ่งชี้ถึงภาวะขาขึ้นอยู่ในขณะนี้
• นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะดำเนินการกดดันเกาหลีเหนืออย่างเต็มกำลัง เพื่อให้เกาหลีเหนือหยุดโครงการพัฒนาอาวุธ ขณะที่รัฐบาลจีนประสงค์ให้เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือสามารถเจรจากันได้ด้วยดี
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปี ร่วงลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ที่ระดับ 0.45% ก่อนจะทรงตัวบริเวณ 0.46% จากข่าวที่ว่าาข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาด จึงทำให้เกิดมุมมองว่าแนวทางการปรับลดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของยูโรโซนอาจเกิดขึ้นได้ช้าลง
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้ แต่ยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯลดลงเล็กน้อย แม้ว่าจะถูกกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของโอเปก
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.34% ที่ระดับ 52.24 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.36% ที่ระดับ 49.40 เหรียญ/บาร์เรล