· คืนวันศุกร์ดัชนีดาวโจนส์ปิด +0.07% ที่ระดับ 21,858.32 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.13% ที่ระดับ 2,441.32 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.64% ที่ระดับ 6,256.56 จุด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวขึ้นคืนวันศุกร์ หลังจากที่ปิดลดลงในช่วง 3 วันทำการ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ลดกระแสคาดหวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
· ขณะที่เมื่อวานนี้ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 135.39 จุด หรือคิดเป็น +0.62% ที่ระดับ 21,993.71 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500ปิด +1.00% ที่ระดับ 2,465.84 จุด ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปีนี้ ที่ดัชนี S&P500 ปิดบวกได้อย่างน้อย 1% ทางด้านดัชนีNasdaq ปิด +1.34% ที่ระดับ 6,340.23 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เผชิญแรงเทขายในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือเริ่มผ่อนคลายลง
· ดัชนีมาตรวัดความกลัวหรือ VIX ปรับตัวลงเกือบ 3 จุด หลังจากที่พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงทำให้ราคาทองคำที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือนนั้นอ่อนตัวกลับลงมา
สำนักข่าว CNBC รายงายว่า ดัชนี VIX ซึ่งเป็นดัชนีที่วัดความกลัวได้ดีที่สุดปรับตัวลงมาแถวระดับ 12.4 จุด หรือลดลงมาประมาณ 20%
· เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นตามการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +0.96% จากค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน
· ตลาดหุ้นอินเดียและเกาหลีใต้จะปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันหยุดประจำชาติ
· นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 33.10 - 33.30 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องติดตามการประชุมกนง. ในวันที่ 16 ส.ค. และต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค. บันทึกการประชุมเฟดและถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ