MTS Help Center

·         ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงหลังรายงานประชุมเฟดมีท่าทีกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการอ่อนตัวของเงินเฟ้อจึงมีโอกาสเห็นเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาแถวระดับ 93.46 จุด หลังจากเมื่อคืนนี้ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์บริเวณ 94.145 จุด

ทางด้านค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.3% บริเวณ 1.1771 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับต่ำสุดเมื่อวานนี้ในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่ 1.1681 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าลงมาบริเวณ 110.01 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานทำระดับอ่อนค่า 110.95 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงหลังรายงานประชุมเฟดมีท่าทีกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการอ่อนตัวของเงินเฟ้อจึงมีโอกาสเห็นเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาแถวระดับ 93.46 จุด หลังจากเมื่อคืนนี้ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์บริเวณ 94.145 จุด

ทางด้านค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.3% บริเวณ 1.1771 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับต่ำสุดเมื่อวานนี้ในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่ 1.1681 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าลงมาบริเวณ 110.01 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานทำระดับอ่อนค่า 110.95 เยน/ดอลลาร์

·         เมื่อวานนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศยุบสภาที่ปรึกษาด้านธุรกิจ 2 แห่ง ภายหลังจากที่บรรดา CEOบริษัทยักษ์ใหญ่ประกาศลาออก เพื่อประท้วงคำพูดของเขาที่กล่าวหาว่ากลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อเหตุความรุนแรงในเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย เป็นพวกชาตินิยมผิวขาว

·         รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายทรัมป์ได้ประกาศยุบสภาภาคการผลิตและสภาการวางแผนกลยุทธ์นโยบายภาคธุรกิจเพื่อชาวอเมริกา (The American Manufacturing Council and Strategic and Policy Forum) หลังจากที่ผู้นำภาคธุรกิจคนสำคัญอย่าง นาย เดนิส มอรริสัน ซีอีโอของบริษัท Campbell Soup Co. นายอินจ์ ธูลิน ซีอีโอของบริษัท 3M Co ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่ง

ขณะที่สภาการวางกลยุทธ์และนโยบายภาคธุรกิจนั้น ผู้นำบริษัทยักษ์ใหญ่คนสำคัญก็มีการประกาศลาออก นำโดย นายสตีเฟ่น ชวอร์สแมน ซีอีโอบริษัท Blackstone Group ซึ่งถือเป็นพันธมิตรผู้ใกล้ชิดกับธุรกิจทั่วโลกของนายทรัมป์

·         รายงานกาประชุมเฟดวาระ 25-26 ก.ค.ที่ผ่าน่มา แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดมีความกังวลเกี่ยวกับการอ่อนตัวของเงินเฟ้อ และมีบางส่วนยังเรียกร้องให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อว่าเป็นเพียงภาวะชั่วคราวจริงๆ ขณะเดียวกันเฟดก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะเริ่มต้นลดยอดงบดุลในพอร์ตด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ระดับต่ำบริเวณ 1.5% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 1.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ที่เฟดต้องการในช่วงเวลากว่า 5 ปี

·         รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ตลาดการเงินประเมินโอกาสเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ไว้ที่ 40% โดยลดลงจากระดับ 50% ก่อนทราบรายงานประชุมเฟด

·         รายงานยอดการก่อสร้างบ้านปรับตัวลดลงเกินคาดในเดือนก.ค. ท่ามกลางการก่อสร้างบ้านแบบ Multi-Family ที่แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 เดือน แต่ภาคแรงงานที่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ยังเป็นปัจจัยทื่เอื้อต่อตลาดที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ ยอดการเริ่มต้นสร้างบ้านอ่อนตัวลง 4.8% ที่ระดับ 1.16 ล้านยูนิต ขณะที่ยอดอนุมัติก่อสร้างบ้านร่วงลง 4.1% ที่ระดับ 1.22 ล้านยูนิต หลังจากที่ยอดสร้างบ้านแบบ Multi-Family ปรับตัวลงกว่า 11.2%

·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวชื่มชมนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับการตัดสินใจยกเลิกแผนการยิงขีปนาวุธใส่เกาะกวม ว่าเป็นการตัดสินใจที่ “ฉลาด” ซึ่งช่วยให้ความตึงเครียดในกรณีดังกล่าวได้ผ่อนคลายลงไป

·         ราคาน้ำมันดิบร่วงลงวานนี้ แม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯจะปรับตัวลดลงมากที่สุดในปีนี้ โดยตลาดยังคงตอบรับกับรายงานการผลิตน้ำมันภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นที่เป็นปัจจัยเข้ากดดันราคา

 โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 18 เซนต์ ที่ระดับ 50.62 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ปรับขึ้นไปทำสูงสุดบริเวณ 51.4 เหรียญ/บาร์เรล และน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 35 เซนต์ ที่ระดับ 47.20 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ระหว่างการซื้อขายขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 47.99 เหรียญ/บาร์เรล

·         รายงานจาก EIA เผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 7 สัปดาห์อีก 8.95 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 466.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ม.ค.ปี 2016