• สหรัฐฯเข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่เกิดขึ้น ณ กรุงวอชิงตัน เพื่อลดการขาดดุลทางการค้ากับเม็กซิโกและแคนาดา รวมถึงช่วยหนุนปริมาณความต้องการรถยนต์ในสหรัฐฯ
นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนทางการค้าสหรัฐ ระบุว่า "พวกเราเห็นพ้องต้องกันว่าข้อตกลงฉบับนี้จำเป็นต้องมีการปรับปรุง ซึ่งไม่ใช่แค่บางส่วนเท่านั้นแต่ควรจะเป็นการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่มีอายุถึง 23 ปี และสภาพเศรษฐกิจของเราในปัจจุบันก็แตกต่างจากในสมัยปี 90"
• นายแสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่า ความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯเพื่อผ่อนคลายกฎข้อบังคับของภาคธนาคารดูจะ "อันตรายอย่างมากในระยะอันสั้น" ซึ่งเริ่มมีสัญญาณปัญหากลับเข้าสู่สถานะเดิมในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008
นอกจากนี้ นายฟิชเชอร์ ยังแสดงความกังวลต่อระบบการเมืองของสหรัฐฯ ที่อาจทำให้เกิดปัญหาที่ค่อนข้างอันตรายตามมา
• นายสตีฟ แบนนอน ที่ปรึกษาด้านการเมืองของประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ในปัจจุบันสหรัฐฯได้ถือว่าเข้าสู่สงครามการค้ากับจีนแล้ว โดยที่สหรัฐฯเป็นฝ่ายเสียเปรียบในปัจจุบัน แต่สหรัฐฯจะโต้กลับด้วยการเจรจาข้อตกลงทางการค้าใหม่
• จากแบบสำรวจโดย Reuters พบว่าประชาชนอังกฤษกว่า 53% พยายามลดการใช้จ่ายลงในไตรมาสที่ 2/2017 ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสเดียวกันเมื่อปี2015 ที่ระดับ 56% ท่ามกลางความกังวลในอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มขยายตัว ประกอบกับความกังวลหลังการลงมติ Brexit เมื่อปี 2016 จึงกดดันการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนอังกฤษ
• ผลสำรวจโดย Thomson Reuters แสดงให้เห็นว่าบรรดาธุรกิจส่วนใหญ่ในยุโรปและอังกฤษ ไม่มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการดำเนินกิจการ จากความกังวลในกรณีBrexit แต่อย่างใด
• ยอดอนุมัติก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ของเยอรมนีปรับลดลง 7% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าการเติบโตของตลาดอสังหาฯของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปจะเริ่มชะลอตัวลง
• นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่า หากเกาหลีเหนือทำการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์กับขีปนาวุธแบบยิงข้ามทวีป (ICBM) จะเป็นการ “ล้ำเส้นอย่างร้ายแรง” ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯให้สัญญาว่าจะขอความเห็นชอบจากผู้นำเกาหลีใต้เสียก่อน หากจะมีปฎิบัติการทางการทหารใดๆ
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ แต่ตลาดยังคงถูกกดดันจากปริมาณผลผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น 9 เซนต์ ที่ระดับ 50.36เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 2 เซนต์ ที่ระดับ 46.80 เหรียญ/บาร์เรล