MTS Help Center

การซ้อมรบร่วมกันระหว่างกองทัพสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ ซึ่งจัดขึ้นทุกๆปี มักจะเป็นการท้าทายเกาหลีเหนืออยู่เสมอ โดยการซ้อมรบจะมีขึ้นภายในวันนี้ ขณะที่การซ้อมรบครั้งนี้อาจได้รับการตอบรับจากเกาหลีเหนือที่รุนแรงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวข่มขู่เกาหลีเหนือเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ว่าหากทำการยิงโจมตีเกาะกวมจะต้องประสบกับ “เพลิงสงครามและความพิโรธ” จากสหรัฐฯ

เกมสงคราม

การซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ภายใต้ชื่อ Ulchi Freedom Guardian จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ และจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งจะเป็นการซ้อมรบร่วมครั้งแรกนับตั้งแต่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธในเดือนกรกฎาคม และเผยแผนการยิงโจมตีเกาะกวมในช่วงต้นเดือนนี้

แม้จะได้รับเสียงเรียกร้องจากหลายๆฝ่ายให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนแผนการซ้อมรบ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งกองทัพสหรัฐฯและเกาหลีใต้ก็ได้ออกมายืนยันว่า การซ้อมรบจะยังคงจัดตามกำหนดการต่อไป

ขณะที่ บรรดาสื่อสำนักต่างๆได้คาดการณ์ว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะดำเนินไปแบบไม่เอิกเกริก โดยจะไม่มีการยิงอาวุธระยะไกลของฝ่ายสหรัฐฯแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ก็ยังคงไม่ได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงแต่อย่างใด ส่งผลให้หลายๆฝ่ายกังวลว่าอาจเป็นการส่งข้อความให้เกาหลีเหนือเข้าใจผิด และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ได้

ภัยคุกคามจากขีปนาวุธ

แทบจะเป็นที่เห็นคล้องตรงกันว่า การซ้อมรบคราวนี้จะต้องได้รับการตอบรับจากเกาหลีในทางใดทางหนึ่งแน่นอน คำถามสำคัญก็คือ จะรุนแรงแค่ไหน?

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เกาหลีเหนือพยายามที่จะแสดงศักยภาพเพื่อข่มอำนาจของสหรัฐฯ ด้วยการยิงขีปนาวุธระยะไกลเป็นหลัก จึงไม่น่าจะปล่อยให้การซ้อมรบครั้งนี้ดำเนินไปจนจบโดยไม่สร้างสถาณการณ์ใดให้เกิดความตึงเครียดไปมากกว่านี้แน่นอน

ความกังวลเกี่ยวกับอนาคต

หลายๆฝ่ายได้พยายามเรียกข้องให้ผู้นำกองทัพของทั้งสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ให้ยกเลิกหรือลดขนาดของการซ้อมรบครั้งนี้ เพื่อลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือและเพิ่มโอกาสในการที่จะได้เจรจาเพื่อยกเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

อย่างไรก็ดี นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สั่งให้ผู้นำกองทัพเตรียมจัดการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯเพื่อขยายเพดานของจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่เกาหลีใต้สามารถครอบครองได้ในเร็วๆนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ก็ได้กล่าวว่า รัฐบาลควรเริ่มพิจารณาที่จะนำเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์มาประจำการ เพิ่อเฝ้าระวังภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

ที่มา: CNBC