· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 194.14 จุด หรือคิดเป็น +0.9% ที่ระดับ 21,899.89 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.99% ที่ระดับ 2,452.51 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +1.36% ที่ระดับ 6,297.48 จุด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวขึ้นวานนี้ และต่างก็เป็นการปิดระดับวันที่ดีที่สุดในรอบสัปดาห์ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ของบรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปภาษีและระดับเพดานหนี้ ที่หนุนให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกอีกครั้ง
· นาย พอล ไรอัน โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับสำนักข่าว CNN ว่า การปฏิรูปภาษีอาจเป็นเรื่องง่ายที่จะผ่านมติสภาคองเกรสมากกว่าล้มเหลวเหมือนนโยบายสุขภาพ เนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันมีการสร้างฉันทามติ
· ขณะที่ นายมิทช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา กล่าว่ว่า มีโอกาส 0% ที่สหรัฐฯจะล้มเหลวในการเพิ่มระดับเพดานหนี้ในเดือนก.ย. จึงบรรเทาความกังวลทีว่าสหรัฐฯอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +0.62% ซึ่งถือเป็นการยุติการปรับตัวลดลงติดต่อกันในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ทางด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.26% โดยได้รับอานิสงส์จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะหุ้นบริษัท Samsung Electronics ที่ปรับขึ้นได้ +1.23% และหุ้นบริษัท LG Electronics ปรับขึ้น +2.64%
· นักบริหารเงิน ประเมินว่า ในวันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-33.30 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม ซึ่งน่าจะเป็นลักษณะทรงตัวเพราะไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ท่ามกลางปริมาณซื้อขายระดับปานกลาง