· ดัชนีดอลลาร์ปิดร่วงลง 87.8 จุด หรือคิดเป็น -0.4% ที่ระดับ 21,812.09 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.34% ที่ระดับ 2,444.07 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.3% ที่ระดับ 6,278.41 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางนักลงทุนที่วิตกกังวลต่อประเด็นคำขู่ของสหรัฐฯที่จะทำการ Shutdown รัฐบาล หากสภาคองเกรสล้มเหลวในการอนุมัติเงินสนับสนุนการสร้างกำแพงพรมแดนเม็กซิโก
· ขณะที่ นายพอล ไรอัน โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องทำการ Shutdown รัฐบาล แต่ถ้อยแถลงดังกล่าวก็ไม่เพียงพอที่บรรเทาความกังวลเกี่ยวกับเส้นตายในการอนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆที่ใกล้เข้ามา รวมทั้งการต่อสู้กับภาวะการเพิ่มระดับการกู้ยืมเงินของภาครัฐบาล
· สภาคองเกรสจะมีเวลาเพียง 12 วันในการดำเนินงานจากช่วงที่ได้หยุดฤดูร้อนกันไปภายในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เพื่อเพิ่มระดับเพดานหนี้ ก่อนที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภาระผูกพันทั้งหมดของรัฐบาลกลางที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน
· สภาคองเกรสยังคงไม่มีการบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 19.9 ล้านล้านเหรียญ จึงส่งผลให้สหรัฐฯเผชิญกับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระดอกเบี้ย และเงินต้นของพันธบัตร โดยหากรัฐบาลสหรัฐฯยังไม่มีงบประมาณที่จะบริหารประเทศก็จะส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาล และเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนต.ค.นี้
· ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เผชิญแรงกดดันมากขึ้น หลังจากที่สถาบันจัดอันดับ ฟิชท์ เรทติ้งส์ ออกรายงานเตือนว่า หากสภาคองเกรสล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯในช่วงเวลาที่เหมาะสม อาจทำให้ทางสถาบันฯจำเป็นต้องปรับทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือลงจากระดับสูงสุดในขณะนี้ของสหรัฐฯ คือ AAA
อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างวิตกกังวลกันเพิ่มมากขึ้นจากความสามารถในการบริหารและผลักดันนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจของทีมบริหารของนายทรัมป์ ที่ดูจะสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนในทำเนียบขาว
· ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหว Sideways ในเช้าวันนี้ หลังจากที่นายทรัมป์ขู่คุกคามจะทำการ Shutdown รัฐบาล ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ทางด้านดัชนีนิกเกิอเปิด -0.26% และดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.17%
· นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30-33.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เงินบาทกลับมาอ่อนค่า หลังกระทรวงพาณิชย์ไทยประกาศภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน ก.ค.60 พบว่าขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี และยังมีแนวโน้มว่าจะขาดดุลการค้าต่อเนื่องไปอีก 2- 3 เดือน