· ค่าเงินยูโรคืนวันศุกร์ดีดขึ้นกว่า 1% และเช้านี้ทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอ่อนตัวลง จากการที่ผู้นำประธานธนาคารทั้ง 2 แห่ง ลดท่าทีในการกล่าวถึงแนวทางดำเนินนโยบายการเงิน โดยเฉพาะประธานอีซีบีที่ไม่ได้กล่าวเกี่ยวกับการแข็งค่าของค่าเงินยูโรเมื่อล่าสุดดังเช่นในการประชุมวาระก่อนหน้า
นอกจากนี้ ตลาดค่าเงินยังคงกังวลกับผลกระทบของพายุเฮอริเคนฮาเวย์ ที่อาจส่งผลต่อกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้
จะเห็นได้ว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ไม่ได้กล่าวย้ำแนวทางดำเนินนโยบายเฟดในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล จึงกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์และพันธบัตรรัฐบาลปรับอ่อนค่า ขณะเดียวกันก็เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
ขณะที่ นายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวว่า การค้าทั่วโลกและการจัดการร่วมกันอยู่ภายใต้แรงคุกคามจากนโยบายกีดกันทางการค้า จึงอาจสร้างความเสี่ยงต่อประสิทธิผลทางด้านการผลิตและในท้ายที่สุดอาจส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
· ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาประมาณ 0.78% และเช้านี้อยู่ที่ระดับ 92.37 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 1.03% ที่ระดับ 1.1919 ดอลลาร์/ยูโร และเช้านี้ปรับขึ้นทำสูงสุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2015 ที่ระดับ 1.1966 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนจะทรงตัวบริเวณ 1.1934 ดอลลาร์/ยูโร ทางด้านค่าเงินเยนปรับแข็งค่า 0.23% กลับลงมาบริเวณ 109.3 เยน/ดอลลาร์
· สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ร่วงลงมาบริเวณ 2.1711%
· สำนักข่าว CNBC ระบุถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ก่อนที่จะขึ้นพูดในที่ประชุมJackson Hole โดยระบุว่า ทุกๆครั้งที่เกิดวิกฤตจะต้องมีการดำเนินการด้วยการปฏิรูป และการปฏิรูปเหล่านั้นช่วยทำให้ระบบการเงินมีความปลอดภัยมากขึ้น
ขณะที่การเปลี่ยนแปลงใดๆเกี่ยวกับเงื่อนไขของกรอบระบบการเงินอาจต้องมีการพิจารณาให้ดี เพราะการเปลี่ยนแปลงใดๆจะประกอบไปด้วยความเหมาะสมของกฎระเบียบที่นำมาปรับใช้กับภาคธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางได้ และเพื่อให้สามารถวางแผนการจัดการแก้ปัญหาได้
ทั้งนี้ เฟดยังคงจับตาเงื่อนไขทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และมีการปรับให้เหมาะสมกับการวิจัย เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของแผนปฏิรูปและความเป็นไปได้ต่อนัยยะของข้อกำหนด
นอกจากนี้ ประธานเฟดยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กฎ Volcker Rule ที่จำกัดความสามารถการซื้อขายของภาคธนาคารเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาอาจจำเป็นต้องทำให้ง่ายขึ้น ซึ่งกฎบางอย่างต้องพิจารณาให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่เกิดภาวะความไม่สมดุลทางการเชื่อมโยงและภาคธนาคารในภูมิภาค
· เครื่องมือ FedWatch จาก CME Group ล่าสุด ประเมินโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยลดลงสู่ระดับ 37% จากระดับ 44% ในช่วงเช้าวันนี้ หลังทราบถ้อยแถลงเกี่ยวกับท่าทีระมัดระวังในการดำเนินการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบหรือการดำเนินการใดๆทางการเงิน ของประธานเฟดก่อนขึ้นเวทีประชุม Jackson Hole
· ในการประชุม Jackson Hole นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด มีการส่งข้อความถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยกล่าวอย่างชัดเจนว่า หากเขามีการเสนอชื่อเธอเป็นประธานเฟดอีกครั้ง เธอจะไม่หันกลับไปดำเนินการปฏิรูปทางการเงินตามที่พรรครีพับลิกันต้องการให้กลับไปใช้
· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวว่า นโยบายการเงินฉบับผ่อนคลายพิเศษเป็นไปด้วยดี ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และอาจคงนโยบายต่อไปหากจำเป็นที่จะหนุนให้เงินเฟ้อปรับขึ้นสู่เป้าหมาย 2%
อย่างไรก็ดี ประธานอีซีบี มีท่าทีมั่นใจต่อการขยายตัวของเงินเฟ้อ ว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ ท่ามกลางภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น และตลาดแรงงานมีการตึงตัว ดังนั้น เขาจึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดทนรอต่อการใช้นโยบายผ่อนคลายพิเศษของอีซีบี
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ออกมากล่าวผ่านทางทวิสเตอร์ โดยข่มขู่ว่าจะทำการยกเลิกสนธิสัญญา NAFTA อีกครั้ง ในการประชุมรอบที่ 2 กับตัวแทนจากประเทศเม็กซิโกและแคนาดาที่จะมีขึ้นภายในวันนี้
· ราคาน้ำมันดิบคืนวันศุกร์ปิดปรับขึ้นเกือบ 1% ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ประกอบกับชายฝั่งสหรัฐฯเผชิญกับพายุเฮอริเคน ฮาเวย์ ซึ่งอาจเป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดที่พัดเข้าสู่สหรัฐฯในรอบกว่าทศวรรษ