• ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าทำจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่บริเวณ 1.1924 ยูโร/ดอลลาร์ หลังประธานอีซีบีไม่ได้แสดงความกังวลที่มีต่อการแข็งค่าของเงิรยูโร ในการประชุมที่เมืองแจ็คสัน โฮล ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนฮาวีย์ที่สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับลดลง 0.25% ที่ระดับ 92.501 จุด เมื่อเทียบกับค่าเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับร่วงลงไปที่ระดับ 92.372 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2016
• ข้าราชการระดับสูงของญี่ปุ่น เรียกร้องให้นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ดำเนินการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เป็นไปอย่างโปร่งใสที่สุด เพื่อที่บรรดาผู้ประกอบการธุรกิจในญี่ปุ่นจะสามารถตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและป้องกันไม่ให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีกำหนดการจะเดินทางไปยังญี่ปุ่น เพื่อพบกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ภายในสัปดาห์นี้ โดยจะเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าหลังBrexit รวมไปถึงการป้องกันประเทศ
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเดินทางไปยังรัฐเท็กซัส เพื่อตรวจสอบความเสียหายหลังพายุเฮอริเคนฮาวีย์ ซึ่งเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี พัดเข้ามาติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้มีผู้เสียเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ก่อให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่หลายจุด และส่งผลให้ธุรกิจหยุดชะงัก
• กระทรวงพลังงานแห่งสหรัฐฯเผย ผลกระทบจากเฮอริเคนฮาร์วีย์ส่งผลให้ ยอดการผลิตน้ำมันสหรัฐฯที่ตั้งอยู่ในบ่อน้ำมันของเม็กซิโกลดลงกว่า 22% ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำแท่นขุดเจาะน้ำมันกว่า 105 แห่งจำเป็นต้องถูกอพยพออกไป
• รายงานจากสำนักข่าว CNBC ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการกำหนดภาษีให้กับสินค้านำเข้าจากจีน
นอกจากนี้ จากรายงานข่าวยังระบุว่า เจ้าหน้าที่อยู่ในการประชุมดังกล่าวกับนายทรัมป์ เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสืบสวนกรณีต้องสงสัยว่าจีนมีการขโมยทรัพย์สินทร์ทางปัญญาจากสหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ นายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าสหรัฐฯ, นายปีเตอร์ นาวาโร ที่ปรึกษาด้านการค้า, นายแกรี่ โคน หัวหน้ากรรมการที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ, และนายสตีฟ แบนนอน อดีตที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์
• เฮอริเคนฮาร์วีย์ ได้สร้างความเสียหายให้กับบริเวณรัฐเทกซัส ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสหรัฐฯเป็นบริเวณกว้าง โดยล่าสุด ยังมีรายงานว่าบางพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมอยู่ ชณะที่นักวิเคราะห์ชี้ ความเสียหายในรัฐเท็กซัสอาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันสหรัฐฯในระยะยาว เนื่องจากบรรดาบริษัทน้ำมันรายใหญ่ในเท็กซัสจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราวจากปัญหาน้ำท่วม ส่งผลให้ปริมาณอุปทานน้ำมันมีลดลง จึงคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจปรับขึ้นได้ 25 เซ็นต์/แกลลอน เป็นอย่างน้อย
• ตลาดน้ำมันผันผวน หลังพายุเฮอริเคนฮาวีย์ได้พัดถล่มรัฐเท็กซัส ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ส่งให้การผลิตน้ำมันสหรัฐฯต้องหยุดชะงักลง
โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.7% ที่ระดับ 47.50 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.1% ที่ระดับ 52.34 เหรียญ/บาร์เรล