· ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ 2 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร โดยค่าเงินยูโรเช้านี้ทรงตัวบริเวณ 1.1980 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ปรับแข็งค่าทะลุ 1.2 ดอลลาร์/ยูโร แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี บริเวณ 1.2069 ดอลลาร์/ยูโร
ด้านค่าเงินเยนทรงตัวบริเวณ 109.89 เยน/ดอลลาร์ และดัชนีดอลลาร์ปรับแข็.ค่าขึ้น 0.1% ที่ระดับ 92.336 จุด หลังจากที่เมื่อวานนี้ลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ม.ค. ปี 2015 บริเวณ 91.621 จุด
· Conference Board เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนส.ค.นี้ ออกมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ระดับ 122.9 จุด ท่ามกลางการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นของภาคครัวเรือน ประกอบกับตลาดแรงงาน ขณะเดียวกันราคาบ้านก็มีการปรับสูงขึ้นมาในช่วงเดือนมิ.ย. จึงบ่งชี้ว่า สัญญาณการฟื้นตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคล่าสุดมีแนวโน้มจะเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
· รัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาประกาศว่า การยิงขีปนาวุธเมื่อวานนี้ เป็นการแสดงการต่อต้านการซ้อมรบร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ และยังเปิดเผยอีกว่า การทดสอบดังกล่าวเป็นกระบวนการที่จะต่อยอดไปยังแผนการโจมตีเกาะกวม
· สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือ กล่าวว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือส่งสัญญาณการปล่อยมิสไซต์จากเมืองฮวางซอง ด้วยมิสไซน์พิสัยระยะกลาง 12 ลูก เพื่อเป็นการตอบโต้การร่วมซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ
· คณะกรรมการด้านความมั่นคงแห่งสหรัฐฯ หรือ U.N. กล่าวประนามการยิงขีปนาวุธใกล้พื้นที่ประเทศญี่ปุ่นของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง พร้อมประกาศให้เกาหลีเหนือทำการปลดอาวุธนิวเคลียร์และยกเลิกโครงการพัฒนาอาวุธทั้งหมด และจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดหากมีการยิงขีปนาวุธอีกครั้ง
· รายงานจากสำนักข่าว Reuters ระบุว่า สภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯกำลังให้ความสำคัญกับการบรรเทาทุกข์สำหรับผู้ประสบภัยจากพายุเฮอริเคนฮาวีย์ ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายด้วยตัวเองเมื่อวานนี้ และระบุว่าเป็นพายุเฮอริเคนที่รุนแรงมากเป็นประวัติการณ์
· ราคาแก๊สโซลีนปรับตัวขึ้นประมาณ 4% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงอย่างผสมผสานกัน หลังจากที่พายุเฮอริเคนได้ส่งผลให้มีการปิดโรงกลั่นน้ำมันหลักของสหรัฐฯไปแล้วกว่า 19% จึงช่วยจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันและจำกัดปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ