ราคาทองคำปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปี 2017 หลังเกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขีปนาวุธดังกล่าวได้ตกลงไปใกล้เกาะตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง โดยนักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ Safe-haven หลังค่าเงินปรับอ่อนค่าลงมาอีกครั้ง ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2015 หลังจากตาดรับข่าวการยิงขีปนาวุธ และยังคงอยู่ในทิศทางอ่อนค่าในช่วงตลาดเช้าวันนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวน ขณะที่ราคาพัลลาเดียมปรับขึ้นเหนือระดับ 1,000 เหรียญ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน มี.ค
ราคาทองคำแท่งสำหรับส่งมอบทันทีของตลาดทองคำสหรัฐฯปรับขึ้น 0.3% ที่บริเวณ 1,314.23 เหรียญ ขณะที่ราคา Gold Spot ปรับขึ้นกว่า 1.2% ทำระดับสูงสุดที่ 1,326.08 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. ปีที่ผ่านมา สำหรับราคาสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมของตลาด COMEX ปรับขึ้น 0.3% และทรงตัวที่บริเวณ 1,318.90 เหรียญ
ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ของ Bloomberg ปรับขึ้น 3.5% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน นำโดยหุ้น AngloGold Ashanti Ltd. และ Harmony Gold Mining Co.
ราคาทองคำในภาพรวมรายปีปรับขึ้นเกือบ 15% โดยปรับขึ้นติดต่อกันทุกเดือน ยกเว้นแต่ในเดือนมิ.ย. ท่ามกลางกระแสความตึงเครียดเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือและท่าทีต่อต้านจากสหรัฐฯ ประกอบกับกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอจังหวะการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยผลสำรวจสำรวจล่าสุดพบว่า บรรนักลงทุนมองโอกาสเพียง 30% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ปริมาณอุปสงค์ของสินทรัพย์ Safe-haven ยังเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากความกังวลในตลาดเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนฮาวีย์ ที่คาดว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่พายุเฮอริเคนแซนดี้ในปี 2012 ได้พัดถล่มเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์จาก Kitco Metals ได้คาดการณ์ว่า จีดีพีในไตรมาสที่ 3/2017 ของสหรัฐฯน่าจะชะลอตัวลง จากความเสียหายที่เกิดจากเฮอริเคนฮาวีย์