• ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1,313.10 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความตึงเครียดทางเกาหลีเหนือ แม้ว่าจะเป็นการปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างจำกัดเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มฟื้นตัวเล็กน้อยท่ามกลางกระแสความตึงเครียดดังกล่าว
• กรรมการผู้จัดการของ GoldSilver Central ระบุว่า เราจะเห็นว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในตอนนี้ เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนจากนานาประเทศว่าจะตอบโต้การกระทำของเกาหลีเหนืออย่างไร
• นักวิเคราะห์อาวุโสจาก OANDA ระบุว่า ขณะนี้ตลาดทองคำอยู่ในภาวะ Overbought ประกอบกับข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศในวันศุกร์จึงส่งผลให้ราคาทองคำอาจชะลอตัวลงก่อนทราบข้อมูลดังกล่าว แต่ในภาพรวมทางเทคนิคราคาทองขำยังเป็นทิศทางขาขึ้น
• นักวิเคราะห์จาก Reuters คาดว่า ราคาทองคำจะกลับมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,326 เหรียญ
• ราคาซิลเวอร์ปรับตัวสูงขึ้น 0.6% ที่ระดับ 17.45 เหรียญ แต่อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ที่ระดับ 17.67
• ราคาทองคำปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปี 2017 หลังเกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขีปนาวุธดังกล่าวได้ตกลงไปใกล้เกาะตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง โดยนักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ Safe-haven หลังค่าเงินปรับอ่อนค่าลงมาอีกครั้ง ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
• ราคาทองคำในภาพรวมรายปีปรับขึ้นเกือบ 15% โดยปรับขึ้นติดต่อกันทุกเดือน ยกเว้นแต่ในเดือนมิ.ย. ท่ามกลางกระแสความตึงเครียดเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือและท่าทีต่อต้านจากสหรัฐฯ ประกอบกับกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอจังหวะการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่า บรรดานักลงทุนมองโอกาสเพียง30% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ปริมาณอุปสงค์ของสินทรัพย์ Safe-haven ยังเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากความกังวลในตลาดเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนฮาวีย์ ที่คาดว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่พายุเฮอริเคนแซนดี้ในปี 2012 ได้พัดถล่มเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์จาก Kitco Metals ได้คาดการณ์ว่า จีดีพีในไตรมาสที่ 3/2017 ของสหรัฐฯน่าจะชะลอตัวลง จากความเสียหายที่เกิดจากเฮอริเคนฮาวีย์