• การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ได้สิ้นสุดลงในวันนี้ ท่ามกลางกระแสความตึงเครียดหลังเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลงสู่ทะเลญี่ปุ่น และความเห็นที่ตรงกันข้ามระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯและที่ปรึกษาของเขา เกี่ยวกับวิธีรับมือเกาหลีเหนือ
• นายจิม แมททิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแห่งสหรัฐฯ กล่าวเกี่ยวกับกรณีความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือว่า “สหรัฐฯยังคงมีตัวเลือกทางการฑูตอยู่” การแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ จึงเป็นการแสดงจุดยืนที่ตรงกันข้ามกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยสิ้นเชิง หลังจากที่นายทรัมป์ได้ออกมาประกาศกร้าวผ่านทวิตเตอร์ว่า “การเจรจาไม่ใช่ทางออก” เกี่ยวกับกรณีการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ก่อนหน้าถ้อยแถลงของนายเจมส์
• นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะพบกันภายในวันนี้ และมีแนวโน้มสูงที่จะประกาศให้ความร่วมมือกันในด้านกลาโหม การป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ และการต่าต้านการก่อการร้าย ท่ามกลางความตึงเครียดหลังเกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธตกลงไปใกล้บริเวณเกาะตอนเหนือของญี่ปุ่น
• รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งเม็กซิโก ออกมาประกาศว่า เม็กซิโกจะเดินออกจากการเจรจาสนธิสัญญา NAFTA ทันที หากประธานาธิบดีสหรัฐฯยืนยันที่จะยกเลิกสนธิสัญญาดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศว่า อาจต้องมีการยกเลิกสนธิสัญญา NAFTA เพื่อที่จะสามารถจัดการเจรจาภายใต้สนธิสัญญาฉบับใหม่ เพื่อที่จะให้มีความยุติธรรมกับสหรัฐฯได้
• รายงานจากศูนย์พายุหมุนแห่งสหรัฐฯระบุว่า พายุเฮอริเคนฮาวีย์ได้อ่อนกำลังลงสู่ระดับพายุดีเปรสชันแล้ว
• รายงานจากสำนักข่าว Reuters เผย รางรถไฟในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ของสหรัฐฯ อาจใช้งานไม่ได้เป็นระยะเวลานาน หลังจากที่ได้รับเสียหายจากพายุเฮอริเคนฮาวีย์
• ดัชนีคำสั่งซื้อภาคโรงงานของประเทศจีน ในเดือนสิงหาคม ขยายตัวผิดคาดสู่ระดับ 51.7 จุด จากเดิมในเดือนกรกฏาคมที่ระดับ 51.4 จุด โดยยังคงยืนเหนือระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้วัดถึงภาคอุตสาหกรรมที่กำลังขยายตัว ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แม้จะมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการชะลอตัวของตลาดอสังหาฯและความเสี่ยงด้านการเงินก็ตาม
• ราคาน้ำมันสหรัฐฯแตะระดับ 2 เหรียญ/แกลลอน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 เนื่องจากน้ำท่วมจากพายุเฮอริเคนได้ส่งผลให้มีการปิดโรงกลั่นน้ำมันหลักของสหรัฐฯไปแล้วเกือบหนึ่งในสี่ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในทิศทางอ่อนตัวท่ามกลางปริมาณน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงตามภาวะดังกล่าว
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ระดับ 46 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลง 12 เซนต์ ที่ระดับ 50.74 เหรียญ/บาร์เรล