· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯดูจะไม่ได้สร้างความประทับใจต่อตลาดเท่าไหร่นัก แถมยังสร้างแรงกดดันต่อโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะเดียวกันปริมาณการลงทุนในตลาดูจะลดน้อยลง และนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนทราบรายงานการจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% แถวระดับ 92.69 จุด โดยภาพรวมอ่อนค่าลงติดต่อกัน 6 เดือนในเดือนส.ค. ขณะที่ค่าเงินเยนเช้านี้แข็งค่าลงมาอีก 0.3% ที่ระดับ 109.93 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงจากระดับสูงสุดวานนี้บริเวณ 110.66 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสูงสุดเมื่อ 15 วันก่อน
ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นได้กว่า 13% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในปีนี้ และภาพรวมเดือนส.ค. ยังเป็นระดับแข็งค่าต่อเนื่องยาวนาน 6 เดือนติดต่อกัน ซึ่งเมื่อคืนนี้ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นได้ 0.5% ที่ระดับ 1.9 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งไม่ห่างจากระดับสูงสุดในช่วง 2 ปีครึ่งที่ทำไว้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาบริเวณ 1.2069 ดอลาร์/ยูโร
· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าที่คาดในเดือนก.ค. ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อรายปียังคงชะลอตัวในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง จึงลดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค.นี้
จะเห็นได้ว่า ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯยังอยู่ในระดับต่ำแม้ว่าตลาดแรงงานจะมีภาวะการจ้างงานที่ใกล้สมบูรณ์ หลังข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯก็ยังคงปรับตัวลงและข้อมูลการจ้างงานที่ยังเพิ่มขึ้นจึงยังตอกย้ำความตึงตัวของตลาดแรงงาน
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจดำเนินการยกเลิกนโยบายของอดีตประธานาธิบดี ที่เคยกำหนดไว้เพื่อป้องกันการส่งเยาวชนต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมาย จำนวนกว่า 800,000 ราย กลับประเทศภูมิลำเนา ท่ามกลางสัญญาณการต่อต้านจากบรรดาส.ส.และผู้บริหารธุรกิจแนวหน้า
· นายจิม แมททิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้ทำการลงนามส่งกองกำลังเพิ่มเติมไปยังประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดของทีมบริหารของนายทรัมป์
· รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโก กล่าวว่า เม็กซิโกและแคนาดาจะยังอยู่ในข้อตกลง NAFTA แม้ว่าทีมบริหารตัวของนายทรัมป์จะตัดสินใจยกเลิกต่อข้อตกลงดังกล่าวก็ตาม
· สัญญาแก๊สโซลีนยังคงปิดทะยานขึ้นอีก 10% ส่งผลให้ภาพรวมในช่วง 2 วันทำการปรับขึ้นแล้ว 26% แตะระดับราคาสูงสุดในรอบ 2 ปีในการยืนเหนือ 2 เหรียญ/แกลลอน โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนพลังงาน ก่อนที่จะเข้าสู่วันหยุดแรงงานของสหรัฐฯ โดยสัญญาแก๊สโซลีน RBc1 ปิดปรับขึ้น 21.03 เซนต์ หรือ +11.2% ที่ระดับ 2.0950 เหรียญ/แกลลอน
อย่างไรก็ดี โรงกลั่นน้ำมันหลักของสหรัฐฯยังคงปิดทำการกว่า 25% จึงทำให้เหล่าเทรดเดอร์คาดว่าจะส่งผลให้ภาวะอุปทานน้ำมันดิบลดลง ขณะเดียวกันวานนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้เกือบ 3% โดยจะเห็นได้จาก น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวขึ้นหลังจากที่ปิดลดลงในสัปดาห์ก่อน โดยขยับขึ้นมา 1.24 เหรียญ/บาร์เรล ที่ระดับ 47.20 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ภาพรวมรายเดือนปิดปรับตัวลงกว่า 6% ในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นระดับการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ มี.ค. ที่ผ่านมา
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.47 เหรียญ/บาร์เรล หรือคิดเป็น +2.89% ที่ระดับ 52.33 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่เมื่อวานนิปิดลดลงกว่า 2%