· ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวหลังจากที่นักลงทุนให้ความสำคัญไปยังความตึงเครียดบริเวณคาบสมุทรเกาหลีที่เกิดขึ้นล่าสุด ประกอบกับตลาดให้ความสำคัญไปยังแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของทางสหรัฐฯ
ค่าเงินเยนทรงตัวบริเวณ 109.78 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานนี้แข็งค่าลงไปจากภาวะ Knee-Jerk บริเวณ 109.22 เยน/ดอลลาร์ หลังมีข่าวเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธหัวรบไฮโดรเจนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทางด้านค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1895 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่เมื่อวานนี้แข็งค่าขึ้นไปบริเวณ 1.1922 ดอลลาร์/ยูโร และดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 92.63 จุด
· กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กำหนดให้วันที่ 29 กันยายนนี้ เป็นวันกำหนดเส้นตายในการเพิ่มระดับเพดานหนี้ ที่ต้องจำกัดช่องว่างทางกฎหมายเกี่ยวกับแนวทางการอนุมัติการกู้ยืมของภาครัฐบาลสหรัฐฯ
ไม่เพียงแต่สภาคองเกรสจะต้องหาทางจำกัดระดับหนี้ ยังมีคาดการณ์ว่าสหรัฐฯอาจต้องขยายเพดานหนี้ออกไปด้วยเพื่อไม่ให้สหรัฐฯได้รับผลกระทบในการจัดการกับผลกระทบภายในประเทศหลังเกิดพายุเฮอริเคนฮาวีย์
· สหรัฐฯอาจพิจารณาคว่ำบาตรทางการค้ากับประเทศที่มีการทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ เพราะถือเป็นความตั้งใจส่งเสริมที่ทำให้เกิดอันตรายจากนิวเคลียร์ ขณะที่ทางสหประชาชาติหรือ UN อาจมีการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ หลังจากที่พบสัญญาณการทดสอบมิสไซน์เพิ่มเติมจากทางเกาหลีเหนือ
ขณะที่เกาหลีใต้ ระบุว่า มีการหารือกับสหรัฐฯเกี่ยวกับการซ้อมเครื่องบินทิ้งระเบิดและแผนยุทธศาสตร์บริเวณคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 6 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
· การจับจ่ายใช้สอยของชาวอังกฤษเพิ่มสูงขึ้นในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นล่าสุดเมื่อเดือนเม.ย. จากการจับจ่ายในช่วงวันหยุดอีสเตอร์ แต่ก็ยังมีสัญญาณเล็กน้อยว่าการใช้จ่ายอาจอ่อนตัวลงได้
· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะให้เงินทุนสนับสนุนแผนการร่วมมือกันระหว่างกลุ่ม BRICSเป็นจำนวน 80 ล้านเหรียญที่ประสบปัญหานโยบายกีดกันทางการค้า โดยแบ่งเป็นจำนวน 500 ล้านหยวน (76.4 ล้านเหรียญ) จะใช้เพื่อแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีกับกลุ่ม BRICS และอีก 4 ล้านเหรียญ จะเป็นโปรเจ็คใหม่สำหรับภาคธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งใหม่ของกลุ่ม (NDB) ที่จะหารือกันในที่ประชุมของผู้นำกลุ่มจำนวน 3 วันที่เมืองเซียเหมิน
· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาแก๊สโซลีนอ่อนตัวลงแตะระดับก่อนเผชิญกับพายุเฮอริเคนฮาวีย์ ท่ามกลางการกลั่นน้ำมันและท่อส่งน้ำมันบริเวณชายฝั่งน้ำมันเริ่มทยอยกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง จึงผ่อนคลายความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมัน
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 8 เซนต์ ที่ระดับ 47.37 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่กลับสู่ตลาดอีกครั้ง หลังจากที่กิจกรรมการกลั่นน้ำมันดิบปรับตัวลดลงตั้งแต่ที่เผชิญกับพายุฮาวีย์เมื่อ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา