· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ประกอบกับปริมาณความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังมีอยู่อย่างแข็งแกร่งจากความกังวลเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
· ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้นประมาณ 0.6% ที่ระดับ 1,341.86 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดบริเวณ1,344.21 เหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 8 ก.ย. ปีที่แล้ว
· การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์และการอ่อนตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้หนุนให้สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดระดับสูงสุดในรอบเกือบปี โดยเมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้น 14.1 เหรียญ หรือคิดเป็น +1.1% ที่ระดับ 1,344.5 เหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ 22 ก.ย. ปีที่แล้ว
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ทำการซื้อทองคำเข้า 8.87 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 840.08 ตัน
· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า เกาหลีใต้เห็นพ้องกับสหรัฐฯในการยกเลิกข้อจำกัดด้านหัวรบ เพื่อให้สามารถตอบโต้กับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่ได้ทำการทดสอบขีปนาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างมากกว่าครั้งใดๆในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
· รายงานจาก Asia Business Daily ซึ่งเป็นสำนักข่าวของเกาหลีใต้ ระบุว่า เกาหนีเหนือมีการเคลื่อนย้ายขีปนาวุธ ICBMบริเวณชายฝั่งตะวันตกของประเทศ
· นักวิเคราะห์จาก Commerzbank กล่าวว่า ทองคำยังมีปริมาณความต้องการอย่างต่อเนื่องในฐานะ Safe-Haven ขณะที่ทางเกาหลีเหนืออาจยิงขีปาวุธได้อีกครั้งก่อนเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองของประเทศในวันที่ 9 ก.ย. นี้ จึงทำให้เกิดแรงตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้นไปทั่วภูมิภาค
· นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs มีมุมมองว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองของสหรัฐฯในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ในเดือนหน้า อาจมีเหตุไม่คาดฝันหลังจากที่ได้เผชิญกับพายุเฮอริเคนฮาวีย์ จึงบ่งชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯยังคงต้องเผชิญกับการจัดการกับปัญหาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการผ่านร่างค่าใช้จ่าย และความพยายามที่ยากลำบากในการหลีกเลี่ยงภาวะ Shutdown ของรัฐบาล รวมทั้งโปรเจ็คการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานที่ควรเกิดขึ้นเร็วๆนี้มากกว่าปล่อยให้เนิ่นนาน
บรรดานักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs เชื่อว่า ความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะเผชิญกับภาวะ Shutdown นั้นลดน้อยลง จากเดิมที่ประเมินไว้ในขั้นต้นที่ระดับ 35% และขณะนี้โอกาสดังกล่าวนั้นลดน้อยลงมาประมาณ 15% โดยบรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติจะกลับเข้ามาทำงานตามปกติหลังจากที่ได้หยุดยาวไปในเดือนที่ผ่านมา จึงคาดว่าน่าจะเกิดข้อตกลงอันรวดเร็วในเบื้องต้นประมาณเกือบ 8 พันล้านเหรียญในการบรรเทาและฟื้นฟูประเทศจากพายุเฮอริเคนฮาวีย์ โดยทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจะทำการพิจารณากันในวันนี้
อย่างไรก็ดี Goldman Sachs ยังคงคาดการณ์ระดับราคาเฉลี่ยของทองคำในช่วงสิ้นปีนี้ไว้บริเวณ 1,250 เหรียญ เว้นเสียจากความตึงเครียดของเกาหลีเหนือจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
· นักลงทุนยังคงจับตาไปยังแนวทางการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของเฟด ไม่ว่าจะเป็นตลาดค่าเงินหรือแม้แต่ตลาดทองคำ โดยเมื่อคืนนี้ นางลาเอล เบรนาร์ด เจ้าหน้าที่บอร์ดบริหารของเฟด กล่าวว่า เฟดอาจต้องชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัวอาจยิ่งกดให้อัตราเงินเฟ้อลดต่ำลงต่อได้
· ด้าน นายนีล คาร์ชคาริ ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า เป็นไปได้ค่อนข้างมากที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 4 ครั้งของเฟดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 20175 อาจกำลังทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเผชิญกับ “อันตรายอย่างแท้จริง”
· ราคาซิลเวอร์ปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจึงยังทรงตัวแถวระดับ 17.89 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.1% ที่ระดับ 1,007.9 เหรียญ
· ทางด้านราคาพลาเดียมปิดลดลง 1.4% ที่ระดับ 963.23 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก.พ.ปี 2001 ที่ระดับ 1,001 เหรียญเมื่อวานนี้