• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 กันยายน 2560

    8 กันยายน 2560 | Economic News


 

·         จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี เพราะได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนที่เข้ากระหน่ำในพื้นที่รัฐเท็กซัส แต่ภาพรวมแนวโน้มของตลาดแรงงานยังคงสอดคล้องกันและมีความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาแย่กว่าที่คาดโดยมีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 62,000 ราย สู่ระดับ 298,000 ราย ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เม.ย. ปี 2015 และถือเป็นระดับการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่พ.ย.ปี 2012

อย่างไรก็ดี ข้อมูลล่าสุดก็ยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย ต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่ 131 ซึ่งถือเป็นการอยู่ต่ำกว่า 300,000 รายต่อเนื่องและยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

·         รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กำลังจับตาไปยังการแข็งค่าของค่าเงินยูโร ท่ามกลางกลุ่มผู้กำหนดนโยบายที่เริ่มต้นกำหนดทิศทางนโยบายการเข้าซื้อพันธบัตรในอนาคต

ทั้งนี้ ประธานอีซีบี กล่าวว่า ความผันผวนของค่าเงินล่าสุดทำให้เกิดความไม่แน่นอนและต้องมีการเฝ้าระวังอีกครั้ง  เพราะอาจกระทบต่อเสถียรภาพทางด้านดัชนีราคา ขณะที่การตัดสินใจเกี่ยวกับ QE ยังมีความซับซ้อนอยู่มาก แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจะเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมในสัปดาห์หน้าหรือเดือนหน้า จึงทำให้ไม่สามารถกำหนดวันที่แน่ชัดได้ เนื่องจากต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

ณะที่เจ้าหน้าที่อีซีบียังคงคาดการณ์เงินเฟ้อที่ระดับ 1.2ในปี 2018 และ 1.5ในปี 2019 โดยยังคงเป็นระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2ที่ได้กำหนดไว้

·         รายงานจาก Washingtion Post ระบุว่า อีซีบีอาจพร้อมที่จะเริ่มแผนปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรในเดือนหน้า ท่ามกลางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยจะเห็นได้จากถ้อยแถลงของประธานอีซีบีที่กล่าวย้ำถึงโครงการเข้าซื้อพันธบัตรที่จะมีส่วนช่วยต่อภาวะการขยายตัว จึงอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในช่วงต้นเดือนหน้า

·         ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นประมาณ 1.2หลังทราบถ้อยแถลงของประธานอีซีบี จึงทำให้ค่าเงิน Break ขึ้นมายืนเหนือ 1.2 ดอลลาร์/ยูโร ทำระดับแข็งค่ามากที่สุดบริเวณ 1.2059 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนจะทรงตัวที่ระดับ 1.2025 ดอลลาร์/ยูโร

ด้านดัชนีดอลลาร์ร่วงลงกว่า 1.1ทำระดับต่ำสุด 91.405 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ม.ค. 2015

·         เมื่อเช้านี้ นายวิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดควรค่อยๆปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เงินเฟ้อมีโอกาสจะรีบาวน์ได้ ดังนั้น เขาจึงคาดหวังว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้

·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า อาจไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทางทหารกับเกาหลีเหนือเพื่อยุติโครงการทดลองขีปนาวุธ เพราะหากสหรัฐฯดำเนินการจริงจังอาจเป็น “วันที่เลวร้ายที่สุด” ของผู้นำเกาหลีเหนือได้

·         ผลการประกาศข้อมูลจีดีพีญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสที่ 2 ระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย. พบว่าขยายตัวได้ที่ระดับ 2.5โดยลดลงจากประมาณการณ์ขั้นต้นที่ระดับ 4.0%  

·         สัญญาน้ำมันดิบปิดผสมผสานกันเมื่อคืนนี้ โดยน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง หลังจากที่รายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ท่ามกลางโรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐฯที่กลับมาเปิดทำการหลังจากที่เผชิญกับพายุเฮอริเคน “ฮาวีย์” และตามมาด้วย พายุเฮอริเคน “เออร์มา”

น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 29 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.5ที่ระดับ 54.49 เหรียญ/บาร์เรล  ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา และเป็นการปิดปรับตัวขึ้นวันที่ 2

น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 7 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.1% ที่ระดับ 49.09 เหรียญ/บาร์เรล

·         รายงานจาก EIA ระบุว่า รายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ขยายตัวขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์ที่ 4.0 ล้านบาร์เรล

·         ผลกระทบจากพายุเฮอริเคน “ฮาวีย์” ที่เข้ากระหน่ำเมื่อ 25 ส.ค. ส่งผลให้มีปริมาณการกลั่นน้ำมันลดลง 16.7% สู่ระดับ 79.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2010

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com