• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงจากควมกังวลเกี่ยวกับการที่เกาหลีเหนือจะจัดเฉลิมฉลองวันชาติในวันพรุ่งนี้ และผลกระทบจากเฮอริเคนเออมาร์ ที่กำลังจะเข้าสู่รัฐฟลอริดา หลังจากที่โหมกระหน่ำเข้าสู่แถบแคริบเบียน
ดัชนีดอลลาปรับอ่อนค่าลง 0.5% ที่ระดับ 91.191 จุด หลังจากที่ลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2015 บริเวณ 91.011 จุด และภาพรวมรายสัปดาห์ค่าเงินดอลาร์มีการอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง
รายงานจากรอยเตอร์สล่าสุด พบว่า ตลาดส่วนใหญ่ประเมินโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไว้เพียง 1 ใน 5 ที่จะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ จากระดับ 1 ใน 3 เมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่ามา ขณะที่การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกำลังกดดันค่าเงินดอลลาร์
• ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง แม้ว่าอีซีบีจะมีความกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของค่าเงินก็ตาม แต่ทิศทางการประชุมเมื่อวานนี้ออกมาในเชิงค่อนข้างดี
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน และหลุดระดับสำคัฐทางเทคนิคมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 108 เยน/ดอลลาร์อีกครั้ง จากการที่นักลงทุนที่ลดการถือครองดอลลาร์จากความแตกต่างกันค่อนข้างมากของค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโร
ค่าเงินยูโรกลับทดสอบ 1.2062 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ช่วงเช้าวันนี้ทำระดับแข็งค่ามากที่สุดบริเวณ 1.2092 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2015 หรือโดยภาพรวมค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นแล้วเกือบ 15% และถือเป็นค่าเงินที่ดีมีภาพรวมดีที่สุดในปีนี้เมื่อเทียบกับค่าเงินในกลุ่ม G10
• เช้านี้ นายวิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก คาดหวังว่าเฟดจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกหนึ่งครั้งในปีนี้ และมีมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำจะสามารถรีบาวน์กลับขึ้นมาได้ ซึ่งความคิดเห็นของเขายังคงเป็นไปในทิศทางเชิงคุมเข้มทางการเงิน
• ยอดส่งออกจีนประจำเดือนส.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 5.5% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น 3.3% โดยโพลล์สำรวจจากนักวิเคราะห์คาดว่ายอดส่งออกของจีนจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 6.0% ขณะที่คาดว่ายอดนำเข้าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 10.0% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ยอดดุลการค้าจีนอยู่ที่ระดับ 4.199 หมื่นล้านเหรียญ จึงส่งผลให้มียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นที่ระดับ 2.623 หมื่นล้านเหรียญ จากระดับ 2.52 หมื่นล้านเหรียญในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยต้องให้ความสำคัญอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับประเด็นทาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เนื่องจากสหรัฐฯมีนโยบายการกีดกันทางการค้า
• นักวิเคราะห์ความมั่นคงของสหรัฐฯ เชื่อว่า เกาหลีเหนือมีนิวเคลียร์มากกว่า 60 ลูก ที่สามารถนำมาใช้ได้ ขณะที่ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือมีการประกาศว่า ขีปนาวุธที่เขาถือครองสามารถยิงข้ามประเทศไปยังพื้นที่ของสหรัฐฯได้ หลังจากที่ได้ทำการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปจำนวน 2 ครั้ง ที่เรียกว่า Hwasong-14 เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 6 ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงสุดตั้งแต่ที่มีการเปิดทดสอบมา
• รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า ทางสหรัฐฯจะร่างแนวทางแก้ไขร่วมกับทาง UN ในการระงับการขนส่งน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือ ซึ่งการระงับการส่งออกวัตถุดิบรวมไปถึงการเลิกจ้างงานจากทุกประเทศ ตามแนวทางทางการทูต เปรียบเสมือนการอายัดสินทรัพย์ของผู้นำเกาหลีเหนือจากความเห็นชอบของชาติสมาชิกทั้ง 15 ประเทศของทาง UN หลังจากที่ นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือยังคงปฏิเสธเจรจาทางการทูต ขณะที่สหรัฐฯต้องการให้ UN ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นในกาประชุม 11 ก.ย.นี้
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวผสมผสานกัยในวันนี้ โดยน้ำมันดิบ Brent ได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าซาอุดิอาระเบียอาจปรับลดอุปทานในเดือนต.ค ขณะที่น้ำมันดิบ WTIถูกกดดันจากปริมาณการกลั่นน้ำมันได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคนฮาวีย์
ทั้งนี้ สัญญาส่งมอบน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น 8 เซนต์ ที่ระดับ 54.57 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่สัญญาส่งมอบน้ำมันดิบ WTI ปรับลง 11 เซนต์ ที่ระดับ 48.98 เหรียญ/บาร์เรล