• ค่าเงินดอลลาร์ในตลาดเอเชียทรงตัว หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาในช่วงเช้านี้ ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกของเหล่านักลงทุน หลลังความกังวลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือและพายุเฮอริเคนเออร์มาเริ่มผ่อนคลายลง โดยดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่บริเวณ 91.874 จุด เมื่อเทียบเงินสกุลหลักส่วนใหญ่
ขณะที่ ค่าเงินยูโรทรงตัวที่บริเวณ 1.1955 ยูโร/ดอลลาร์ หลังจากที่ปรับอ่อนค่าลง 0.7%
• คณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติ เมื่อคืนนี้ ได้ตัดสินเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ด้วยการบังคับให้นานาประเทศระงับการส่งออกน้ำมันดิบและสิ่งทอสู่เกาหลีเหนือ หลังจากที่มีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา
การสั่งคว่ำบาตรครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 9 แล้ว นับตั้งแต่เกาหลีเหนือเริ่มมีการทดสอบขีปนาวุธเมื่อปี 2006 ขณะที่แบบร่างของนโยบายคว่ำบาตรครั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯเป็นผู้ร่างขึ้นมา ก่อนที่จะส่งให้ทางองค์การสหประชาติเป็นผู้พิจารณาและปรับเปลี่ยนตามเหมาะสม
นางนิกกิ ฮาเลย์ เอกอัครราชทูตแห่งสหรัฐฯ ได้กล่าวถึงการคว่ำบาตรครั้งนี้ ว่าทางสหประชาชาติไม่ได้มีความยินดี ที่จะผลักดันการคว่ำบาตรแต่อย่างใด และไม่ได้เป็นการท้าทายให้เกิดสงคราม โดยทางเกาหลีเหนือยังคงไม่สายเกินไปที่จะพิจารณากลับตัวกลับใจได้ เพื่ออนาคตของเกาหลีเหนือ แต่ถ้าทางเกาหลีเหนือยังคงดึงดันจะทำการพัฒนาอาวุธต่อไป ทั่วโลกก็จำเป็นต้องเพิ่มแรงกดดันให้หนักยิ่งขึ้น
• รายงานจากสำนักข่าว Reuters ระบุว่า ธนาคารรัฐรายใหญ่จำนวน 4 แห่งในประเทศจีน ประกาศยกเลิกการให้บริการสำหรับลูกค้าใหม่ที่เป็นชาวเกาหลีเหนือ ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯที่กล่าวว่ารัฐบาลจีนไม่เข้มงวดมากพอในการกดดันเกาหลีเหนือให้หยุดโครงการพัฒนาอาวุธ
• รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจแห่งเยอรมนี เผย เศรษฐกิจภายในประเทศในช่วงครึ่งปีแรกสามารถเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่คาดว่าการเติบโตในช่วงในช่วงครึ่งปีหลังอาจชะลอตัวลงบ้างเล็กน้อย
• ราคาน้ำมันปรับลดลงท่ามกลางความกังวลของเหล่านักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการเริ่มกลับมาเปิดให้บริการของโรงกลั่นทางตอนใต้ของสหรัฐฯและพายุเฮอริเคนเออร์มา ซึ่งอาจส่งผลให้มีการผลิตน้ำมันเข้ามามากขึ้นในตลาด
โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.3% ที่ระดับ 53.70 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.3% ที่ระดับ 47.95 เหรียญ/บาร์เรล