· ค่าเงินดอลลาร์แกว่งตัวผันผวน แม้ว่าจะมีการรีบาวน์กลับได้บ้างจากการฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก่อนทราบข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯที่อาจส่งผลต่อกรอบเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด
โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยบริเวณ 91.892 จุด หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดบริเวณ 92.08 จุด ขณะที่เช้านี้ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนพบว่าแข็งค่าขึ้นประมาณ 0.1% ที่ระดับ 110.27 เยน/ดอลลาร์ หรืออาจเรียกได้ว่าค่าเงินเยนกลับมาอ่อนค่าลงในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ จากระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 10 เดือนท่ำไว้เมื่อวันศุกร์บริเวณ 107.320 เยน/ดอลลาร์
สำหรับเช้านี้ ค่าเงินยูโรทรงตัว 1.1967 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นประมาณ 0.1% เมื่อคืนนี้
· กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผย จำนวนการรับสมัครตำแหน่งงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. จึงแสดงให้เห็นว่า ภาวะชะลอตัวของภาคแรงงานในเดือนส.ค. อาจเป็นภาวะผิดปกติ ขณะที่ภาพรวมตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งก่อนที่จะรับผลกระทบจากพายุเฮอริเคน
ทั้งนี้ การเปิดรับสมัครตำแหน่งงานใหม่ปรับตัวสูงขึ้น 54,000 ตำแหน่ง แถวระดับ 6.2 ล้านตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลมาตั้งแต่ ธ.ค. ปี 2000 และจะเห็นได้ว่าการเปิดรับสมัครตำแหน่งงานยังอยู่ในระดับสูง 6 ล้านตำแหน่งติดต่อกัน 2 เดือนติด
ขณะที่ภาพรวมการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 69,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.5 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ช่วยหนุนให้อัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่งบริเวณ 3.8% จากระดับ 3.7% ในเดือนมิ.ย.
· เมื่อวานนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเห็นด้วยกับทาง U.N. ที่ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือในสัปดาห์นี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงก้าวเล็กๆและอาจเทียบไม่ได้ต่อสิ่งที่จะเกิดจากโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็ตาม
· นายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวเตือนจีนและประเทศคู่ค้าของเกาหลีเหนือหากยังไม่มีการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ ทางสหรัฐฯอาจจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อประเทศของเพวกเขา และจะดำเนินการกันพวกเขาไม่ให้เข้าถึงระบบการเงินระหว่างประเทศ อันรวมไปถึงระบบค่าเงินดอลลาร์
· นายมิทช์ แมคคอนเนล หัวหน้าพรรครีพับลิกัน แสดงความไม่มั่นใจว่า เพดานหนี้ของสหรัฐฯจะถูกกำจัดได้อย่างถาวร จากแนวความคิดของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันที่มีความเห็นในเชิงการจัดการร่วมกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายแมคคอนเนล กลังวลว่า เรื่องของเพดานหนี้นั้นอาจไม่กลับมาจนกว่าจะเข้าสู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งในปีหน้า และจะทำให้สภาคองเกรสต้องยอมแพ้ต่อการใช้เครื่องมือที่อาจทำให้เกิดความท้าทายอย่างมากในการจัดการต่อปัญหานี้ ซึ่งทางสภาคองเกรสต้องเพิ่มการจำกัดระดับหนี้สินและการจัดการเรื่องการกู้ยืมของรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติอาจใช้ประโยชน์จากความต้องการผลักดันนโยบายหรือการเปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายใดๆก็ตาม
· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ศาลสูงสุดของสหรัฐฯอนุมัติต่อคำสั่งแบนพลเมองชนชาติมุสลิม 6 ประเทศบางส่วนที่เดินทางเข้าสู่ประเทศ ตามแผนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
· อุตสาหกรรมค้าปลีกของสหรัฐฯได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างในช่วงระหว่างเดือนส.ค. – ก.ย. เพราะได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์และเออร์มา จึงอาจส่งผลให้ใช้ระยะเวลาการฟื้นฟูยาวนานกว่าระบบการจัดการร้านอาหาร
· หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันจัดอันดับฟิช เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) คาดการณ์ว่า นักลงทุนมองโอกาสระดับดอกเบี้ยของเฟดไว้ที่ระดับต่ำมาก และอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดพันธบัตร และคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 3.5% ได้ในปี 2020
· ทางการอังกฤษ กล่าวว่า ในการเจรจากรณี Brexit ครั้งต่อไป ถูกเลื่อนออกไปในวันที่ 25 ก.ย. เพื่อให้การเจรจามีความยืนหยุ่นมากขึ้นในการดำเนินการในเดือนนี้ ขณะที่นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีกำหนดการจะกล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวในวันที่ 21 ก.ย.นี้
· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากที่กลุ่มโอเปกเผยคาดการณ์ที่ว่า ภาวะอุปสงค์น้มันจะเพิ่มสูงขึ้นในปี 2018 ขณะที่ประเทศรัสเซียและเวเนซูเอลายืนยันที่จะร่วมข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตต่อไปเพื่อลดภาวะอุปทานโลก
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้น 43 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.8% ที่ระดับ 54.27 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่วันจันทร์ที่ผ่านมาลงไปทำระดับต่ำสุดบริเวณ 53.42 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวขึ้น 16 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.3% ที่ระดับ 48.23 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดบริเวณ 47.73 เหรียญ/บาร์เรลในวันก่อนหน้า