MTS Help Center

·         ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ก่อนทราบผลประชุมเฟดในค่ำคืนนี้ ที่คาดว่าจะมีการตัดสินใจปรับลดยอดงบดุล ซึ่งนักวิเคราะห์ ประเมินว่า เฟดจะประกาศแผนการเริ่มปรับลดงบดุลในวาระการประชุมนี้ และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนต.ค.นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดน่าจะเปิดโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 12 – 13 ธ.ค.

ดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลง 0.3% ที่ระดับ 91.78 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าลงมาเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 111.47 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินยูโร 1.1995 ดอลลาร์/ยูโร

·         เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ล่าสุด แสดงให้เห็นว่า บรรดาเหล่าเทรดเดอร์มองโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้ที่ระดับระมาณ 58%

·         สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สมาชิกอีซีบียังมีความคิดเห็นขัดแย้งกันว่าไม่ควรกำหนดเวลาที่สิ้นสุดการดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินในการประชุมเดือนตุลาคมนี้ ท่ามกลางค่าเงินยูโรที่อยู่ในทิศทางแข็งค่าค่อนข้างมาก

·         ผลการประกาศข้อมูลการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนส.ค. แม้ว่าจะมีการรีบาวน์ของการก่อสร้างบ้านเดี่ยวที่ช่วยชดเชยต่อภาวะอ่อนตัวและความผันผวนของบ้านแบบมัลติแฟลมิลี่ 

รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ข้อมูลที่อยู่อาศัยที่ออกมาผสมผสานกันอาจเป็นตัวฉุดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 นี้ได้ โดยจะเห็นได้ว่า การก่อสร้างบ้านดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักในปีนี้ ท่ามกลางการขาดแคลนที่ดี และผู้ใช้แรงงานที่มีความชำนาญ ประกอบกับค่าอุปกรณ์ก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

·         รายงานจากคิทโก ระบุว่า  นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวอย่างรุนแรงต่อหน้าผู้นำU.N. เมื่อวานนี้ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ รวมไปถึงอิหร่าน และเวเนซูเอล่า โดยเขาเปรียบการกระทำของเกาหลีเหนือว่าเป็น “Rocketman” ที่ได้รับมอบหมายภารกิจฆ่าตัวตายสำหรับตัวเองและประเทศชาติ ซึ่งทางสหรัฐฯจะหาทางทำลายล้างเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก หากเกาหลีเหนือเริ่มมีการดำเนินการทางการทหารต่อประเทศเอกราชทั้งหลาย

·         รายงานจากรอยเตอร์ส เผยว่า ทีมบริหารทัมป์ และผู้นำวุฒิสภาระดับสูงของพรรครีพับลิกันมีการหารือร่างกฎหมายที่จะมาแทนที่ Obamacare แต่ในขณะนี้ก็ยังไม่ได้เสียงสนับสนุนที่เพียงพอที่จะให้ผ่านร่างกฎหมายที่จะมาแทนที่กฎหมายสุขภาพฉบับปี 2010

อย่างไรก็ดี นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี เปิดเผยว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันใน Capitol Hill ผ่านร่างกฎหมายขั้นต้นในสัปดาห์ที่แล้ว โดยการเสนอต่อ นางลินด์เซย์ เกรย์แฮม และนายบิล คาสสิดี้ สมาชิกวุฒิสภาของพรรครีพับลิกันแล้ว ขณะที่นายทรัมป์จะกลับมาพิจารณาต่อร่างกฎหมายนี้อีกครั้ง และเรามีเวลาประมาณ 12 วันในการหารือ

หลังจากวันที่ 30 ก.ย. จะเป็นวันสุดท้ายสำหรับร่างกฎหมายงบประมาณประจำปีที่ยังคงเป็นการยากต่อพรรครีพับลิกันเช่นกัน โดยร่างกฎหมายจำเป็นจะต้องแล้วเสร็จให้ทันการอนุมัติในวันที่ 1 ต.ค. และจำเป็นต้องได้รับคะแนนเสียงจากวุฒิสภาจำนวน 60 เสียง จาก 100 เสียงเพื่อให้เพียงพอต่อการตัดสินใจให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้

·         สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันมีการบรรลุร่างกฎหมายงบประมาณเบื้องต้น ที่อาจรวมไปถึงกฎหมายการปฏิรูปภาษีที่อาจถูกจำกัดลงได้มากถึง 1.5 ล้านล้านเหรียญในการปรับลดภาษีรายได้ในช่วง 10 ปี ซึ่งการเพิ่มขึ้นของกฎหมายภาษีฉบับยกเครื่องก็อาจเอื้อต่อแผนขาดดุลของรัฐบาลได้ และข้อตกลงดังกล่าวถูกคาดการณ์ว่าน่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้

·         เจ้าหน้าอาวุโสของทางการสหรัฐฯ เผยว่า ทีมบริหารของนาทรัมป์กำลังมีการผ่อนคลายกฎต่อกลุ่มผู้ผลิตอาวุธปืนเพื่อขายให้สามารถทำการขายอาวุธปืนบางชนิดได้ ประกอบไปด้วย ปืนไรเฟิลแบบจู่โจมและกระสุนปืนให้กับผู้ซื้อชาวต่างชาติ

·         ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือน หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯจะปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการนำเข้าน้ำมันดิบที่กลับมาอีกครั้ง รวมไปถึงการกลั่นน้ำมันที่เริ่มเปิดทำการหลังจากที่ปิดทำการจากเหตุพายุเฮอริเคน

น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 30 เซนต์ ที่ระดับ 55.20 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 35 เซนต์ ปิดที่ระดับ 49.56 เหรียญ/บาร์เรล

·         ภาพรวมตลาดน้ำมันยังคงรอคอยการประชุมของกลุ่มโอเปกและกลุ่มสมาชิกนอกโอเปกที่จะเกิดขึ้นในวันศุกร์นี้ ซึ่งบรรดากลุ่มผู้ผลิตจะมีการหารือกันเกี่ยวกับประเด็นการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน

ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของกลุ่มโอเปกอย่างอิรัก กล่าวว่า บรรดาสมาชิกจะหารือกันถึงทางเลือกที่หลากหลายต่อการปรับลดอุปทาน ประกอบไปด้วยการขยายเวลาออกไปต่อจากเดือนมี.ค. หรือจำนวนการรับลดการผลิตต่อ

ประเทศไนจีเรียและลิเบียก็จะทำการส่งตัวแทนเข้าประชุมครั้งนี้ด้วย แม้ว่าจะเป็นสองประเทศที่ได้รับการยกเว้นต่อข้อตกลงในครั้งนี้ โดยจะเห็นได้ว่า การเพิ่มกำลังการผลิตของทั้งสองประเทศได้จำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ดังนั้นจึงอาจเห็นทั้ง 2 ประเทศเข้าร่วมต่อข้อตกลงได้