· ราคาทองคำปรับตัวลงกว่า 1% หลังเฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณว่าจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกจำนวนหนึ่งครั้งในช่วงสิ้นปีนี้
· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ก่อนทราบผลการประชุมเฟด โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ของ COMEX ปิด +5.80 หรือคิดเป็น -0.44% ที่ระดับ 1,316.4 เหรียญ
แต่เมื่อทราบผลประชุมเฟด ส่งผลให้ราคาทองคำตลาดโลกร่วงลงหลุดต่ำกว่าระดับแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,300 เหรียญ มาทำระดับต่ำสุดบริเวณ 1,295.81 เหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 28 ส.ค.
· ผลประชุมเฟดเป็นไปตามคาด เมื่อเฟดจะประกาศจะทำการลดยอดงบดุลในพอร์ตที่มีการเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงใช้ QEที่ผ่านมาจากวิกฤตทางการเงิน ขณะที่สมาชิกเฟด 11 จาก 16 ราย พึงพอใจที่จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในสิ้นปีนี้
· ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนประจำสถาบัน GraniteShares ระบุว่า ผลประชุมเฟดที่ออกมาสร้างแรงกดดันต่อทองคำ หลังแสดงให้เห็นเราเห็นมุมมองที่พวกเขาจะทำการขายคืนสินทรัพย์จำนวน 1 หมื่นล้านเหรียญ/เดือน ประกอบกับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และขึ้นดอกเบี้ยอีกจำนวน 3 ครั้งในปีหน้า
· ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดอ่อนตัวลงเล็กน้อยหลังทราบผลประชุมเฟด
· ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบัน Logic Advisors ระบุว่า บรรดานักลงทุนมีการเพิ่มสถานะ Long ในตลาดทองคำติดต่อกัน 9 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงทำให้ตลาดมีความผันผวนและมีแรงเทขายเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ และยิ่งหากทองคำยังคงปรับตัวลดลงอย่างหนักต่อก็อาจส่งผลให้ปริมาณการถือครองสถานะ Long ในตลาดยิ่งลดน้อยลง และโดยเฉพาะแรงเทขายในทองคำเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้นหรือค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 846.03 ตัน
· สัญญาซิลเวอร์ปิด -1.27% ที่ระดับ 17.10 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด -0.63% ที่ระดับ 942 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด +0.39% ที่ระดับ 912 เหรียญ