• การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯได้หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ขึ้นมาทรงตัวแถว 92.568 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.1883 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ยืนเหนือ 1.20 ดอลลาร์/ยูโร ในช่วงก่อนประกาศผลประชุมเฟด
ทางด้านค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้นแตะ 112.595 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 111.3 เยน/ดอลลาร์
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.451% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 2008 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ทรงตัวแถวระดับ 2.278% หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์บริเวณ 2.289%
• หลังเสร็จสิ้นการประชุม เฟดมีการส่งสัญญาณคงคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกจำนวน 1 ครั้งในช่วงสิ้นปีนี้ แม้ว่าข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดจะยังอยู่ระดับต่ำ แต่ล่าสุดเฟดก็มีการปรับลดคาดการณ์แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะยาวลง
• รายงานจากรอยเตอร์ส ชี้ว่า ณ ตอนนี้โอกาสที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. มีเพิ่มขึ้นประมาณ 65% จากระดับ 50% ในช่วงก่อนการประชุม ขณธเดียวกันตลาดก็คาดว่าเฟดน่าจะตัดสินใจปรับทบทวนมุมมองคาดการณ์เศรษฐกิจในวาระประชุมดังกล่าวด้วย
• รายงานจาก Reuters เผย คณะกรรมการแห่งสหภาพยุโรปได้เสนอให้ส่งเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากสหภาพเข้าสู่สำนักงานการเงินหลักของแต่ละประเทศในยุโรป เพื่อช่วยควบคุมการดำเนินนโยบายการเงินของแต่ละประเทศให้เป็นไปตามที่สหภาพกำหนด ภายหลังจากการถอนตัวของอังกฤษ
• เยอรมนีจะมีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายนนี้ ซึ่งโพลส่วนใหญ่ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าพรรคของนางอังเกล่า แมร์เคิล จะยังคงชนะการเลือกตั้งได้แบบขาดลอย ซึ่งจะทำให้เธอครองตำแหน่งนายกฯเป็นวาระที่ 4
อย่างไรก็ดี โพลยังได้แสดงให้เห็นอีกว่า พรรคขวาจัด (AfD) ซึ่งมีแนวคิดเชิงปิดกั้นพรมแดน ต้องการปฏิรูปการเมือง และปฏิเสธค่าเงินยูโร กำลังมีคะแนนความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นจนน่าจะมีที่นั่งในสภาได้อย่างน้อยๆ 12 ที่นั่ง หากโพลสำรวจคาดการณ์ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีของประวัติศาสตร์เยอรมนีที่จะมีส.ส.จากพรรคฝั่งขวาจัดเข้ามาส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศ
• รัฐมนตรีการคลังของเยอรมนี กล่าวว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มอ่อนตัวในช่วงเริ่มต้นไตรมาสที่ 3 หลังจากที่มีทิศทางที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก แต่ภาพรวมสัญญาณบ่งชี้ต่างๆยังบ่งชี้ว่า การขายตัวของเศรษฐกิจจะเป็ฯไปได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของเยอรนีได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของกลุ่มผู้บริโภค ประกอบกับการจ้างงานอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จึงได้ทำให้อัตราค่าแรงที่แท้จริงๆเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเงื่อนไขทั้งหมดมีแนวโน้มจะช่วยให้ นางอังเกลา แมร์เคล ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 4
• สภาเกาหลีใต้อนุมติแผนงบประมาณสำหรับเยียวยาชาวเกาหลีเหนือเปนเงินกว่า 8 ล้านเหรียญ ขณะที่รัฐบาลจีนออกเตือนว่าความตึงเครียดในบริเวณคาบสมุทรเกาหลีนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจากสงครามทางคำพูดของทั้งผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ออกมาตอบโต้คำพูดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้กล่าวว่าจะทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก โดยเขาได้ตอบโต้กลับไปว่าเป็นเพียงแค่เสียงหมาเห่า
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง โดยถูกกดดันจากสต็อกและปริมาณผลผลิตน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์เนื่องจากส่งผลให้การซื้อขายน้ำมันดิบลดลงในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลง 0.3% ที่ระดับ 56.12 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 0.2% ที่ระดับ 50.58 เหรียญ/บาร์เรล