รายงานจาก New York Times ระบุว่า ปัญหาความตึงเครียดในสเปนทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างรัฐบาลสเปนกับชาวคาตาลันที่ต้องการแยกตัวก่อนจะเข้าสู่การลงประชามติแบ่งแยกดินแดนกันขณะเดียวกัน นายมาริโอ ราจอย นายกรัฐมนตรีสเปนก็มีความพยายามที่จะขัดขวางการลงประชามติที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้
สำนักข่าว Time ระบุว่า หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความต้องการแบ่งแยกภูมิภาคของสเปน ผู้เชี่ยวชาญบางราย มองว่า มาจากวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปี 2008 ซึ่งวิกฤตทางการเงินนำไปสู่ปัญหาคนว่างงานเพิ่มขึ้น และเรื่องหนี้สินของประเทศให้ปรับสูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่่ทำให้ประชาชนชาวคาตาลันต้องการแยกตัวออกจากสเปน เนื่องจากต้องจ่ายภาษีมากขึ้นให้แก่ภูมิภาคที่ยากจนกว่า โดยแคว้นคาตาโลเนียมีการจ่ายภาษีสูงขึ้นถึง 1.2 หมื่นล้านเหรียญ ให้แก่สเปนในทุกๆปี ขณะที่แคว้นอันดาลูซีอา ซึ่งเป็นที่ยากจนที่สุดของสเปนได้รับเงินช่วยเหลือประมาณ 9.5 พันล้านเหรียญของที่ชาวคาตาลันจ่ายไป
รายงานข่าวจาก Bloomberg ระบุว่า ไม่ทรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า แต่การแยกตัวของแคว้นคาตาโลเนียถือว่าเป็นการลงคะแนนเสียงของประชาชนที่ผิดกฎหมายที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้ จึงอาจส่งผลให้มีการไล่จับกันระหว่างประชาชนและตำรวจ ท่ามกลางกล่องลงคะแนนกว่า 6,000 ใบ ที่ถูกซ่อนไว้ในสถานที่ลับ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อใช้สำหรับการลงคะแนนเสียงในวันอาทิตย์นี้
อย่างไรก็ดี หากผลการลงมติออกมาเป็น “Yes” อาจส่งผลให้เกิดความไร้เสถียรภาพทางการเมืองแก่พรรครัฐบาลของนายราจอย ซึ่งจะต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากส.ส. ของพรรคCiudadanos ซึ่งเป็นพรรคพลแคว้นจากคาตาโลเนีย และผลขั้นต้นคือการที่แคว้นคาตาโลเนียจะประกาศแยกตัว
สำหรับภาพรวมของสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นต่อความสัมพันธ์ทางการทูตของสภายุโรป อาจเป็นการปฏิรูปเสถียรภาพของสภาสเปนได้ ประกอบไปด้วย ความแข็งแกร่งของกฎหมายที่กำหนดเองของชาวคาตาลัน อันได้แก่ การจำแนกสัญชาติอย่างชัดเจน รวมทั้งอาจมีการเรียกร้องให้เกิดการเลือกตั้ง การหาเสียงข้างมาก หรือแม้แต่การลงประชามติของแคว้นต่างๆที่อาจเกิดขึ้นไปทั่วสเปนได้
ที่มา: New York Time, Time, Bloomberg