• ราคาทองคำปรับร่วงลง 0.2% ที่ระดับ 1,278.36 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน ท่ามกลางแรงกดดันจากกระแสคแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. ปีนี้
ราคาสัญญาทองคำส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับลดลง 0.5% ที่ระดับ 1,281.30 เหรียญ
• หัวหน้าฝ่ายการตลาดจาก Lee Cheong Gold Dealers กล่าวว่า ราคาทองคำจะถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมีความเคลื่อนไหวใดๆจากเกาหลีเหนือ
• รายงานล่าสุดระบุว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฝรั่งเศส สนับสนุนให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มุ่งเน้นการกดดันเกาหลีเหนือผ่านการฑูต
• ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับสูงขึ้น หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่านโยบายปฏิรูปภาษีจะเป็นการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ รวมถึงแรงหนุนจากสัญญาณความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
• ราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.3% ที่ระดับ 16.69 เหรียญ โดยทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 16.64 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. ปีนี้
• นักวิเคราะห์จาก Societe Generale มองว่า ราคาทองคำมีโอกาสจะอ่อนตัวลงต่อในลักษณะ Reversal และมีโอกาสเป็นลักษณะของแนวโน้มขาลง โดยทองคำมีโอกาสจะกลับลงมาเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,200 – 1,250 เหรียญ ขณะที่ราคาทองคำในขณะนี้เคลื่อนไหวแถวระดับประมาณ 1,286 เหรียญ ซึ่งภาพรวมการปรับตัวลงของราคามาจากทิศทางการดำเนินนโยบายของเฟด
• นักวิเคราะห์จาก Price Futures Group บ่งชี้ว่า ทิศทางของทองคำอาจเป็นขาขึ้นได้ในระยะยาว เนื่องจากการอ่อนตัวลงในช่วงนี้มีจุดเริ่มต้นจากการรับรู้ข่าวเฟดที่จะดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงิน แม้ว่าสมาชิกเฟดจะมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อแต่ก็ดูเหมือนจะกังวลน้อยลงกว่าที่ผ่านๆมา ซึ่งหากเฟดยุติความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ เมื่อนั้นก็จะกลับสู่คำถามที่เราควรเริ่มกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ดังนั้น เราจึงมีโอกาสเห็นทองคำปรับตัวสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเงินเฟ้อ