• นายไมค์ วิลสัน หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดหุ้นของ Morgan Stanley กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯดูจะปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับเป้าหมายได้แล้ว แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะเป็นภาวะหมีขาลงได้ โดยคาดว่าดัชนี S&P500 มีโอกาสแตะระดับเป้าหมาย 2,700 เหรียญได้ในช่วงเริ่มต้นปีหน้าได้ และการเปิดเผยคาดการณ์นี้ ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดแรงเทขายลงมาในตลาดหุ้น จนกว่าดัชนีจะปรับขึ้นแตะเป้าหมายดังกล่าว แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะเกิดขึ้น คือ เราอาจเห็นดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลงมาได้ประมาณ 20%
• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดสูงขึ้นในวันนี้ หลังจากที่นายทรัปม์เผยรายละเอียดแผนภาษีที่ทุกคนรอคอย โดยดัชนี Euopean Stoxx 600 เปิด +0.04% โดยได้รับอานิสงส์จากหุ้นส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวแดนบวก
ทั้งนี้ นายทรัมป์ เผยแผนภาษีครั้งใหญ่ในรอบกว่า 30 ปีของสหรัฐฯ แต่ก็มีกระแสวิจารณ์ว่า การปรับลดดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อคนรวย อีกทั้งเพิ่มความไม่แน่ใจให้เกิดขึ้นว่าจะส่งผลกระทบตอยอดขาดดุลของประเทศเช่นไร แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯก็สามารถดีดตัวขึ้นได้ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นได้เช่นกัน
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นหลังจากหุ้นสหรัฐฯเพิ่มขึ้นและค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนจากความหวังที่ว่านายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจมีความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายแผนปฏิรูปภาษี ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด+0.5% ที่ระดับ 20,363.11 จุด
• ตลาดหุ้นจีนทรงตัวท่ามกลางปริมาณซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนกำลังเฝ้ารอรายงานผลประกอบการรายไตรมาส และก่อนที่จะถึงวันหยุดประจำชาติในวันอิทตย์นี้ โดยดัชนี Shanghai Composite ปรับลดลง 0.2% ที่ระดับ 3,339.64 จุด
• ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลง บ่งชี้ถึงความอ่อนแอในตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากเหล่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่สาม
ทั้งนี้ ดัชนี Hang Seng ปิด-0.8% ที่ระดับ 27,421.60 จุด
• สศค. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค. ยังคงได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่องที่ 13.2% ต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 55 เดือน ประกอบกับการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนในเครื่องมือเครื่องจักรช่วยสนับสนุนให้การเติบโตมีความมั่นคงมากขึ้น สอดคล้องกับเศรษฐกิจไทยด้านการผลิตที่ยังคงขยายตัวได้ในอัตราเร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
• นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (ตุลาคม 2559 – สิงหาคม 2560) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 2,132,067 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,961 ล้านบาท อันเนื่องมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวและขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ประกอบกับการติดตามผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 เป็นไปตามประมาณการ ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงเชื่อมั่นว่าตลอดทั้งปีงบประมาณ 2560 รัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย