· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 152.51 จุด หรือคิดเกป็น +0.68% ที่ระดับ 22,557.6 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.39% ที่ระดับ 2,529.12 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.32% ที่ระดับ 6,516.72 จุด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯเริ่มต้นไตรมาสที่ 4 ด้วยทิศทางที่แข็งแกร่ง อันจะเห็นได้จากดัชนีหลักทั้ง 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงทำระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังบ่งชี้ถึงทิศทางที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มวัตถุดิบ, หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและหุ้นกลุ่มการเงินด้วย
· ข้อมูลมาตรวัดกิจกรรมภาคการผลิตสหรัฐฯปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่ง ในเดือนก.ย. จึงขัดขวางภาวะห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฮาวีย์และเออมาร์ และมีผลให้โรงงานให้เวลานานในการขนส่งสินค้า จึงหนุนให้ราคาวัตถุดิบนั้นเพิ่มสูงขึ้น
· ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดผสมผสานกันในเช้านี้ แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปิดปรับตัวขึ้นเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเช้านี้เปิด +0.32% ที่ระดับ 20,465.83 จุด และดัชนี Topix เปิด +0.39% ที่ระดับ 1,680.11 จุด
· ตลาดหุ้นจีนและเกาหลีใต้ยังคงปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ
· นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.35-33.50 บาท/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากมีแรงซื้อกลับดอลลาร์ในตลาดโลกหลังมีข่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯเตรียมตัดสินใจเสนอชื่อประธานเฟดคนต่อไปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อเข้าดำรงตำแหน่งต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน