สรุปประเด็นสำคัญ:
* หุ้นยุโรป (Stoxx 600) ปรับตัวขึ้นได้แล้ว 7% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่นักลงวิเคราะห์หลายฝ่ายเชื่อว่าดัชนีมีโอกาสขึ้นต่อ
* ปัจจัยพื้นฐานมีการฟื้นตัว และความน่าสนใจในมูลค่าหุ้น เป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมนักลงทุนจึงควรจับตาหุ้นในแถบยุโรป
นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ กล่าวกับสำนักข่าว CNBC โดยระบุว่า ตลาดหุ้นยุโรปมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะเผชิญความเสี่ยงทางการเมืองที่เข้ากดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภูมิภาค
กรรมการผู้จัดการนักกลยุทธ์ประจำสถาบันการจัดการด้านการลงทุนอย่าง Manning&Napier ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนตลาด และเราเชื่อว่าจะสร้างความน่าสนใจเพียงพอแก่นักลงทุนให้สูงกว่าในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา อันจะเห็นได้ว่า ปัจจัยพื้นฐานมีการฟื้นตัว และมูลค่าในตลาดหุ้นที่น่าสนใจถือเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมนักลงทุนจึงควรหันมาให้ความสนใจในหุ้นของฝั่งยุโรป แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนจากผลการเลือกตั้งของเยอรมนี ที่สะท้อนว่า นางอังเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีอาจมีคะแนนสนับสนุนในรัฐบาลน้อยลง รวมไปถึงข่าวความกังวลเกี่ยวกับผลของกรณี Brexit
อย่างไรก็ดี ผู้จัดการฝ่ายบริหารพอร์ตการลงทุนของ Acadian Asset Management ภาพรวมดัชนี Stoxx 600 มีการปรับตัวขึ้นได้แล้ว 7% นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ดังนั้น ตลาดหุ้นยโรปน่าจะมีโอกาสไปต่อได้
หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ?
นักวิเคราะห์บางส่วน ชี้ หุ้นกลุ่มธนาคารถือเป็นหุ้นกลุ่มหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจมาก แม้ว่าจะมีผลสะท้อนบางส่วนจากระดับหนี้เสียในระดับสูงทางประเทศในแถบยุโรปทางตอนใต้ เนื่องจากประเทศในแถบนี้มีผลกำไรและผลประกอบการมาจากประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป ซึ่งหากอุปสงค์ภายในประเทศสูงก็จะส่งผลให้เกิดการฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มผู้กู้ก็ยังอยู่เช่นเดิมนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะที่นำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงในประเทศ
อย่างไรก็ดี การหาโอกาสสำคัญต้องมองจากการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภค การก่อสร้างและวัตถุดิบในการก่อสร้าง ภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับการบริการด้านสุขภาพ และด้านไอที ซึ่งภาคบริษัทบางส่วนจะประกอบไปด้วยหุ้นเหล่านี้ที่เป็นอุปสงค์ส่วนใหญ่ของประเทศในแถบยุโรป
นักวิเคราะห์จาก Acadian Asset Management ยังย้ำว่า แม้ตลาดหุ้นยุโรปจะปรับตัวได้ล่าช้ากว่าตลาดหุ้นในช่วงหลายปี แต่ตลาดหุ้นยุโรปก็มีทิศทางที่สดใส ดังนั้น นักลงทุนจึงกลับมาพิจารณาหรือเพิ่มการถือครองสินทรัพย์อย่างหุ้นของยุโรป และทำให้เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะแก่การถือครองหุ้นยุโรป
ที่มา: CNBC