MTS Help Center

รายงานจากรอยเตอร์ ระบุว่า นอกจากผลกระทบของสภาพอากาศ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ยังระบุว่า ภาพรวมของตลาดแรงงานนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานการจ้างงานอาจได้รับผลมาจากข้อมูลในเดือนสิงหาคม ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายของผู้บริโภค, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดการก่อสร้างบ้าน และยอดสร้างบ้าน ที่จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า พายุเฮอริเคนนั้นได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ ประเมินว่า การเกิดเหตุพายุที่เข้ามา รวมไปถึงพายุเฮอริเคนมาเรีย อาจส่งผลเชิงลบต่อโครงสรางพื้นฐานในเปอโตริโก้เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยอาจบั่นทอนการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศประมาณ 0.6% ในไตรมาสที่ 3

ประมาณการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯระหว่างเดือนกรกฏาคม-กันยายน ต่ำสุดน่าจะไม่น้อยกว่า 1.8% ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมาสามารถขยายตัวได้ 3.1%

ภาพรวมของพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์และเออมาร์ คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับอัตราการว่างงานและน่าจะทำให้อัตราการว่างงานยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.4% ในเดือนกันยายน ซึ่งผลสำรวจภาคครัวเรือนอาจสะท้อนให้เห็นผลกระทบจากพายุเฮอริเคนต่อภาวะการจ้างงานให้ชะลอตัวลง เนื่องจากคนทำงานที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้จากสภาพอากาศที่เลวร้ายเช่นเดียวกับกลุ่มคนทำงานนอกเวลา

ทางด้านอัตราค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยรายชั่วโมง ถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. และมีแนวโน้มว่าการเพิ่มขึ้นของค่าแรงจะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.5% ในช่วง 6 เดือน ซึ่งภาพรวมรายปีของอัตราค่าจ้างไม่น้อยกว่า 3.0% ดูเหมือนจะทำให้เงินเฟ้อขยับใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟดได้

ที่มา: Reuters