· ดัชนีดาวโจนส์ปิด -0.01% ที่ระดับ 22,773.67 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.11% ที่ระดับ 2,549.33 จุด และดัชนีNasdaq ปิด +0.07% ที่ระดับ 6,590.18 จุด
ทั้งนี้ ดัชนี S&P500 อ่อนตัวลง หลังจากที่ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ยาวนานต่อเนื่อง 6 วันทำการ โดยได้รับผลกระทบจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี จึงลดความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด ประกอบกับการร่วงลงของหุ้นบริษัทยา และหุ้นบริษัทอเมซอน
· ดัชนี Nasdaq ปิดปรับขึ้นติดต่อกัน 9 วันทำการ และมีการปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ยาวนานติดต่อกันในช่วง 6 วันทำการ ซึ่งถือเป็นระดับที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยปิดปรับขึ้นเป็นประวัติการณ์ยาวนาน 7 วันทำการในช่วงเดือนก.พ.
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนในตลาดที่รอดูข้อมูลภาคบริการของจีน ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และใต้หวันปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ ขณะที่นักลงทุนคาดหวังจะรอดูการกลับมาทำการตามปกติ หลังจากที่หยุดยาวในช่วง Golden Week
· นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทอยู่ที่ระหว่าง 33.30-33.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาการปรับตัวของตลาดเงินตลาดทุนในช่วงต้นสัปดาห์ที่ตอบรับสัญญาณจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ขณะที่จุดสนใจในสัปดาห์น่าจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ย. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นประจำเดือนต.ค.
นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามรายงานการประชุมเฟด (ประชุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.) และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางยุโรปด้วยเช่นกัน