· ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์หลังจากรายงานการประชุมเฟดเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบรรดาสมาชิกเฟดยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.2% สู่ระดับ 92.854 จุด เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนปรับอ่อนค่าลง 0.1% ที่ระดับ 112.38 เยน/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินยูโรปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1.1878 ยูโร/ดอลลาร์
· นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด ไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องกังวล และเฟดควรปรับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับปกติและระมัดระวังไม่ให้ตลาดการเงินสูญเสียเสถียรภาพ หากตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะอิ่มตัว
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผย สหรัฐฯเปิดกว้างที่จะเจรจาสนธิสัญญาทางการค้าฉบับใหม่ระหว่างประเทศกับเม็กซิโกหรือแคนาดา หากการเจรจาแก้ไขสนธิสัญญา NAFTA กับทั้ง 2 ประเทศไม่ประสบความสำเร็จ
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้กล่าวว่า ประชาชนสหรัฐที่มีฐานะปานกลางจะได้รับผลประโยชน์จากนโยบายปฏิรูปภาษี ซึ่งจะช่วยหนุนจากเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจของ Reuters/Ipsos แสดงให้เห็นว่า ชาวสหรัฐฯมากกว่า 3 ใน 4 เห็นควรให้ผู้มีฐานะร่ำรายควรจ่ายภาษีมากขึ้น โดยคิดเป็นประชาชนกว่า 53% ที่ “เห็นด้วยมาก” และ 23% ที่ “ค่อนข้างเห็นด้วย” จากผู้ทำแบบสำรวจทั้งหมด 1,504 คน
· ผลสำรวจโดย Nikkei คาด นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน และพรรค LDP ของเขา มีแนวโน้มจะสามารถครองเสียงข้างมาก ถึง 2 ใน 3 หรือคิดเป็น 290 ที่นั่ง จากทั้งหมด 465 ที่นั่งในรัฐสภา ในการเลือกตั้งก่อนวาระที่จะเกิดขึ้นภายในวันอาทิตย์ที่ 22 ต.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้นายอาเบะมีอำนาจในการปกครองอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่ากลุ่มโอเปกจะพยายามปรับลดการผลิตและตลาดมีความคุ้มเข้มมากขึ้นก็ตาม
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 20 เซนต์ ที่ระดับ 56.74 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 25 เซนต์ ที่ระดับ 51.05 เหรียญ/บาร์เรล