MTS Help Center

·         เมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นหลังจากที่นักลงทุนหันกลับมาเริ่มถือครองสถานะอีกครั้ง หลังจากที่ผิดหวังต่อข้อมูลเงินเฟ้อเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ขณะที่วันจันทร์ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆที่ส่งผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของดอลลาร์

·         ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.22% ที่ระดับ 93.287 จุด หลังจากที่ร่วงลงไปแถวระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 92.75 จุด ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงประมาณ 0.25% ที่ระดับ 1.1792 ดอลลาร์/ยูโร

ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากทราบผลการเลือกตั้งของออสเตรเลีย ที่นายเซบาสเตียน โคร์ซ พรรคประชาชนออสเตรเลียได้รับชัยชนะเลือกตั้ง และดูเหมือนว่าผู้นำหนุ่มคนใหม่มีแนวโน้มจะต้องหาพรรคพันธมิตรจากพรรคขวาจัด เนื่องจากพรรคของเขายังคงห่างไกลจากเสียงข้างมากในสภาฯ

·         ขณะที่เช้านี้ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนและยูโร จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับัตวสูงขึ้น จากรายงานที่ว่า นายทรัมป์ ดูจะพึงพอใจกับผู้ใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป

ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้น 0.05% ที่ระดับ 112.240 เยน/ดอลลาร์ โดยปรับขึ้นต่อหลังจากที่ลงไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์บริเวณ 111.65 เยน/ดอลลาร์

·         รายงานล่าสุดจากรอยเตอร์ส ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรํฐฯปรับตัวขึ้นหลังจากลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังมีรายงานว่า นายทรัมป์ กำลังพึงพอใจกับ นายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากแสตนฟอร์ด ผู้ที่มีแนวโมจะมีแนวคิดคุมเข้มทางการเงินมากกว่านางเจเน็ต เยลเลน คนปัจจุบัน

·         แหล่งข่าวระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนจะทำการเข้าพบกับ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับการค้นหาผู้มาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่แทนเธอ

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังระบุว่า สำหรับรายชื่อผู้ที่ถูกเลือกประกอบไปด้วย นายเจอโรม โพเวลล์ สมาชิกบอร์ดบริหารเฟด, นายเควิน วอช อดีตสมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด, นายยแกรี่ โคห์น ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับสูง และนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบันที่จะหมดวาระในเดือนก.พ.

·         เมื่อคืนที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเกี่ยวกับนโยบายโอบามาแคร์ ว่าเป็นนโยบายที่ “ตายไปแล้ว” พร้อมเรียกร้องให้ทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในสภาคองเกรสร่วมมือกันเพื่อผลักดันนโยบายประกันสุขภาพระยะสั้นที่จะมาแทนที่โอบามาแคร์ชั่วคราว

·         ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นประมาณ 1% ท่ามกลางเหตุปะทะในอิรักบริเวณแหล่งน้ำมันของประเทศเมือง Kirkuk ระหว่างรัฐบาลกลางอิรักและชาวเคิร์ด ประกอบข่าวกำลังการผลิตในอิรักที่ลดลง หลังชาวเคิร์ดในอิรักทำการการหยุดผลิตน้ำมันจำนวน 350,000 บาร์เรล/วันในเมือง Bai Hassan และ Avana จากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยจากเหตุปะทะดังกล่าว

ทั้งนี้ เหตุปะทะที่เกิดขึ้นมาจากอิรักและรัฐบาลภูมิภาคเคิร์ด (KRG) หลังจากที่ KRG ทำการลงประชามติแบ่งแยกดินแดนจากอิรักเมื่อ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา

·         ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 56 เซนต์ หรือคิดเป็น +1.1% ที่ระดับ 57.82 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 42 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.8% ที่ระดับ 51.87 เหรียญ/บาร์เรล

·         ผลสำรวจจากรอยเตอร์ส ชี้ให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตในญี่ปุ่นรีบาวน์ขึ้นในเดือนต.ค. ไปทำระดับสูงสุดเมื่อช่วงกลางปี 2007 ท่ามกลางหลักฐานบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของค่าเงินเยนและภาวะอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากต่างประเทศ