• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 20 ตุลาคม 2560

    20 ตุลาคม 2560 | Economic News


·         ค่าเงินยูโรแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอ่อนตัวลงหลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งการอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์เกิดขึ้นในช่วงปลายตลตาด หลังมีรายงานว่า ดูเหมือนนายทรัมป์ จะเอนเอียงไปทาง นายเจอโรม โพเวลล์ ให้มาเป็นตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป

ทั้งนี้ นายโพเวลล์ สมาชิกบอร์โบริหารของเฟดคนปัจจุบัน ดูจะเป็นบุคคลที่นายสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังพึงพอใจ และเขาก็ดูจะเป็นคนที่ใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินน้อยกว่าบุคคลอื่นๆที่ถูกเสนอชื่อ อาทิ นายเควิน วอช อดีตสมาชิกเฟด หรือนักเศรษฐศาสตร์อย่างนายจอห์น เทย์เลอร์

ซึ่งหากเป็นนายโพเวลล์จริง เราอาจเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และนั่นจะส่งผลต่อมูลค่าการถือครองค่าเงินดอลลาร์

·         ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นแตะระดับสงสุดนับตั้งแต่ศุกร์ที่ผ่านมาบริเวณ 1.1858 ดอลลาร์/ยูโรทางด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลงมาบริเวณ 93.29 จุด จากแถวระดับ 93.60 จุดวานนี้ ทางด้านค่าเงินเยนทรงตัวบริเวณ 112.63 เยน/ดอลลาร์

·         ข้อมูลการว่างงานสหรัฐฯปรับตัวลดลงที่ระดับ 222,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 44 ปีครึ่ง จึงบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของการจ้างงานสหรัฐฯหลังจากพายุเฮอริเคนที่ส่งผลให้การจ้างงานลดลงเมื่่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

โดยตลาดแรงงานยังได้แรงหนุนจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานของโรงงานกลางมหาสมุทรแอตแลนติกประจำเดือนต.ค.ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ จึงส่งสัญญาณถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานอาจหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้

·         ดัชนีภาคการผลิตเขตฟิลาเดลเฟียประจำเดือนต.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 4.1 จุด สู่ระดับ 27.9 ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ที่ผ่านมา

·         รายงานล่าสุดจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการสรุปการสัมภาษณ์กับตัวเต็งทั้ง 5 คนที่จะมาเป็นประธานเฟดคนต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ววานนี้ และคาดว่าจะประกาศผลการตัดสินใจอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้

·         เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจเรียกร้องขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการสิ้นสุดนโยบายObamacare และกฎหมายประกันสุขภาพอื่นๆ แต่ตลาดก็ยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวโน้มการดำเนินระยะสั้นที่จะเกิดขึ้นในตลาดประกัน

·         วันนี้หนังสือพิมพ์ออสเตรเลีย กล่าวอ้างถึงจดหมายที่ทางเกาหลีเหนือส่งตรงถึงรัฐสภาออสเตรเลีย โดยกล่าวเตือนถึงอำนาจการทำลายล้างของอาวุธนิวเคลียร์ และจะไม่เป็นเพียงคำขู่หากนายทรัมป์ มีการคุกคามประเทศจริง

·         รายงานจาก CNBC ระบุว่า นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวเตือนว่า เกาหลีเหนือมีท่าทีเชิงรุกต่อการใช้อนาวุธนิวเคลียร์ และอาจเป็นไปได้ที่จะส่งผลต่อเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ในการทดลองนิวเคลียร์ และผลดังกล่าวจะส่งผลในเชิงลบตามลำดับ ซึ่งความแตกต่างในเวลานี้ คือการที่เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์มากขึ้น จึงทำให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้น

·         ผู้อำนวยการธนาคารกลางจีนกล่าวเตือนว่า อาจเกิดภาวะ “Minsky moment” หรือภาวะ การขาดเงินสดในเกือบทุกภาคการผลิต อันเนื่องมาจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากฟองสบู่ในภาคสินทรัพย์ จากการขยายตัวได้อย่างรวดเร็วเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 ที่ได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายสาธารณะ และการกู้ยืมเป็นประวัติการณ์ของภาคธนาคาร

·         รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในญี่ปุ่นวันอาทิตย์ที่ 22 ต.ค.นี้ นายชินโซ อาเบะ ดูจะได้รับชัยชนะ และชัยชนะครั้งนี้จะเป็นการปูทางให้ญี่ปุ่นจนถึงปี 2021 โดยผลสำรวจยังชี้ว่าเขาน่าจะได้รับเสียงข้างมากกว่า 2 ใน 3

·         ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 1% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันในสหรัฐฯที่ขยายตัวขึ้นกว่าที่คาด ประกอบกับแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคามีการปรับตัวขึ้นในตลาด

น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 92 เซนต์ หรือคิดเป็น -1.6ที่ระดับ 57.23 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 75 เซนต์ หรือคิดเป็น -1.4ที่ระดับ 51.29 เหีรยญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี ภาพรวมของราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงปรับตัวขึ้นได้กว่า 30จากระดับต่ำสุดในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นได้เกือบ 25จากระดับต่ำสุดในช่วงเดือนมิ.ย. 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com