· ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่บริเวณ 113.87 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางแรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่านายจอห์น เทรย์เลอร์ ได้รับแรงสนับสนุนจากบรรดาส.ส.รีพับลิกันส่วนใหญ่ให้ขึ้นครองตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป
ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวที่บริเวณ 1.1761 ยูโร/ดอลลาร์ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่กำลังจับตาดูการประชุมอีซีบีที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้
· แบบสำรวจโดย RBC Capital Markets ประเมินโอกาสที่นายจอห์น เทรย์เลอร์ จะได้รับเลือกให้รับตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป ล่าสุดอยู่ที่ 34% ปรับขึ้นจากระดับ 18% เพียงชั่วข้ามคืนหลังตลาดทราบว่าพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนนายเทรย์เลอร์
· สภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯ นอกจากกำลังหาทางผลักดันนโยบายปฏิรูปภาษีแล้ว ยังคงหาหนทางที่จะเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐ โดยนโยบายที่กำลังพิจารณานำมาใช้ ก็คือนโยบาย 401(k) ซึ่งเกี่ยวกับกองทุนเงินสำหรับชีวิตหลังเกษียณของชาวสหรัฐฯกว่า 10 ล้านชีวิต
แม้นโยบาย 401(k) อาจยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนักก็ตาม แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบสหรัฐฯ ก็ยังคงยืนยันอย่างไม่เป็นทางการที่จะผลักดันนโยบายดังกล่าวต่อโดยไม่เปลี่ยนแปลงรายละเอียดใดๆ
· รัฐบาลจีนเปิดเผยรายชื่อผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งสำคัญทางการเมืองที่ได้รับคัดเลือกในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ เบื้องต้นไม่พบว่ามีส.ส.คนใดที่มีท่าทีจะเป็นผู้สืบทอดต่อจากนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนคนปัจจุบัน แต่อย่างใด
· ผลสำรวจจาก Reuters คาด ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีแนวโน้มสูงที่จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าเป็นครั้งแรกในรอลบ 10 ปี แม้กระแสความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Brexit จะยังคงมีอยู่ ประกอบกับการที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองการปรับขึ่นอัตราดอกเบี้ยของ BoE เป็นเรื่องที่ผิดพลาดก็ตาม
· ราคาน้ำมันดิบส่วนใหญ่ทรงตัวในวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ท่ามกลางกลุ่มผู้ส่งออกรายใหญ่ของซาอุดิอารเบีย ระบุว่า กำลังพยายามที่จะลดภาะอุปทานล้นตลาด
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 88 เซนต์ ที่ระดับ 58.41 เหรียญ/บาร์เรล ขณะทีราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับร่วงลง 9 เซนต์ ที่ระดับ 52.38 เหรียญ/บาร์เรล