• ราคาทองคำปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ หลังจากที่ร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดในช่วงต้นสัปดาห์ จากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร หลังจากที่อีซีบีตัดสินใจขยายเวลาการเข้าซื้อพันธบัตรออกไป
ราคาทองคำตลาดโลกยังคงทรงตัวบริเวณ 1,267 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ 6 ต.ค. ที่ระดับ 1,265.08 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์นี้ราคาทองคำร่วงลงไปแล้วประมาณ 1%
สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. อ่อนตัวลงเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 1,268 เหรียญ
• นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA มองว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวตามทิศทางของค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยแทบจะไม่มีปัจจัยทางการเมืองที่หนุนให้มีการเข้าซื้อทองคำในฐานะ Safe-Haven ขณะที่ตลาดอนุพันธ์ยังคงมีการลดสถานะ Long ในทองคำลง และนี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ ท่ามกลางกลุ่มผู้ซื้อที่มีปริมาณเพียงเล็กน้อยในระหว่างนี้
• ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าในวันนี้ และทำให้ภาพรวมสัปดาห์นี้ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากที่อีซีบีขยายเวลาการเข้าซื้อพันธบัตร รวมทั้งลดโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2018
• นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone กล่าวว่า ราคาทองคำมีโอกาสจะปรับตัวลดลงอีกจากปัจจัยทางพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคโดยทองคำจะมีแนวรับถัดไปซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 6 ต.ค. บริเวณ 1,260.2 เหรียญ และหาก Break แนวรับดังกล่าวลงมาจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,257 เหรียญ โดยระดับแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,262.8 เหรียญ และมีโอกาสที่จะเผชิญแรงเทขายกดดันดังมาได้
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส มองว่า ราคาทองคำมีโอกาสกลับลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมเมื่อวันที่ 6 ต.ค. บริเวณ 1,260.16 เหรียญอีกครั้ง หากราคาหลุดแนวรับ 1,271 เหรียญ และ 1,268 เหรียญลงมา
• นักวิเคราะห์บางส่วน แนะนำให้ติดตามการตัดสินใจเกี่ยวกับประธานเฟดคนต่อไปที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกดดันทิศทางทองคำ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังเลือกและพิจารณาอยู่ว่าจะเลือกใครมารับตำแหน่งนี้ ระหว่าง นายเจอโรม โพเวลล์ สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
ขณะเดียวกัน ส.ส.สหรัฐฯก็พยายามช่วยกันปูทางเพื่อให้สามารถผลักดันนโยบายภาษีได้ตามที่นายทรัมป์และผู้นำพรรครีพับลิกันต้องการจึงเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อค่าเงินดอลลาร์
• ผลสำรวจจากรอยเตอร์ส ชี้ว่า ทองคำมีแนวโน้มจะทรงตัวต่อไปในปี 2018 ท่ามกลางทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ราคาพลาเดียมมีแนวโน้มจะชะลอตัวลง หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 16 ปี บริเวณ 1,000 เหรียญ
• ราคาซิลเวอร์ทรงตัวบริเวณ 16.74 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมร่วงลง 0.4% ที่ระดับ 914 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมอ่อนตัวลง 0.2% ที่ระดับ 967.05 เหรียญ โดยภาพรวมของสินค้าโลหะมีค่าทั้ง 3 ชนิดยังอยู่ในทิศทางขาลง